พระนครศรีอยุธยา-สิบวันเต็มที่อยุธยา 13-22 ธันวาคม 2567 รมช.กระทรวงศึกษาธิการ เปิดงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” ผู้ว่าฯนิวัฒน์ ประกาศจัดเต็มทุกจุด ททท.หนุนเที่ยวกลางวันแต่งชุดไทย
สิบวันเต็ม ตั้งแต่วันที่ 13-22 ธันวาคม 2567 กับการเฉลิมฉลองการที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับการยกย่องเป็นเมืองมรดกโลก ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก ประจำปี 2567 ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
โดยก่อนเวลาเปิดงาน นายสุรศักดิ์ ได้เดินทางเข้าสักการะศาลหลักเมืองอยุธยา เยี่ยมชมบูทต่าง ๆ โดยมีนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ และนำชมบรรยากาศภายในงาน ซึ่งพิธีเปิดเป็นไปด้วยความยิ่งใหญ่ตระการตา สมกับการเฉลิมฉลองความเป็นเมืองมรดกโลกครบ 33 ปี จากนั้นได้เข้าชมการแสดง แสง สี เสียง ชุด “วีรกษัตริย์ วัฒนศิลปบุรี ไพรัช ไมตรี ศรีอยุธยา”
ในปีนี้ผู้จัดได้ถ่ายทอดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ผ่านตัวละครสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ กับ สมัยกรุงศรีอยุธยา ผ่านแรงอธิฐาน แห่งความอัศจรรย์ ในคืนวันลอยกระทง สู่ ค่ำคืน พิธี “จองเปรียง” สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยดำเนินเรื่องราวผ่านตัวละคร “สายป่าน” หญิงสาวจากยุคปัจจุบัน ที่ได้ผ่านช่วงเวลากลับไปยังสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีความเชื่อว่าสามารถเปลี่ยนแปลงไม่ให้เกิดความสูญเสีย และ ล่มสลายของกรุงศรีอยุธยาได้ ประวัติศาสตร์จะเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ นำแสดงโดยพระเอก-นางเอกดาวรุ่งจากช่อง 7HD “ยูโร – ยศวรรธน์ ทะวาปี” รับบท พระยาวชิรปราการ (พระเจ้าตาก) , “ปูเป้ – เกศรินทร์ น้อยผึ้ง” รับบท สายป่าน จาก กรุงรัตนโกสินทร์ และ “วริฐา – จิโรจน์กุล (ณีร DE GIFT’ ) ” รับบท สมเด็จพระสุริโยทัย และแน่นอนที่เรียกความสนใจมากที่สุดคือการแสดงของช้างในฉากต่างๆ ซึ่งหลังชมการแสดงก็สามารถแวะเวียนไปให้อาหารช้างได้
นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษา เปิดเผยว่า “งานยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” เป็นกิจกรรมที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ผนึกกำลังร่วมกับส่วนราชการ องค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง สภาวัฒนธรรม และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีต่อชาติไทยมาจนทุกวันนี้ อีกทั้งเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เพราะเมื่อกล่าวถึง “จังหวัดพระนครศรีอยุธยา” นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จะทราบโดยทั่วกันว่าที่นี่คือ “แผ่นดินแห่งประวัติศาสตร์ของชาติไทย” โดยการรับรองจาก UNESCO ที่ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา” เป็น “มรดกโลกทางวัฒนธรรม” เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2534“ ครบรอบ 33 ปีในปีนี้
ภายในงานมีจุดที่น่าสนใจที่ต้องมาเดินชมมากมาย เริ่มจากการเดินทางมากราบสักการะศาลหลักเมือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง จากนั้นแวะแต่งชุดไทยซึ่งสมาคมผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์โทรทัศน์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำมาออกร้านบริการประชาชนให้เช่ากันในราคาถูก เริ่มต้นที่ราคา 100 บาท ซึ่งปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับทางจังหวัด สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว และสมาคมผู้สื่อข่าว จัดทำคูปองลดราคา 20 เปอร์เซ็นแต่งชุดไทยเที่ยวกลางวัน รับคูปองที่ ททท.แล้วถ่ายภาพสวยๆที่วงเวียน และป้อมค่ายอโยธยา ของงานป้องกันจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เลยไปเป็นเวทีกลางซึ่งจะมีการแสดงมากมาย ติดกันเป็นร้านจำหน่ายมัจฉากาชาดและสลากกาชาด มีนายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯและนายอำเภอและภรรยาพร้อมเจ้าหน้าที่ กำนันผู้ใหญ่บ้านมาช่วยกัน นับเป็นจุดที่ได้รับความสนใจ นอกจากนี้ยังมีบูทของหน่วยรายการมาแสดงนิทรรศการ เช่นโรงพักโบราณของตำรวจ ปีนี้มีตำรวจตกน้ำ บูทขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และวัดตะโก
เข้าไปภายในงานผ่านถนนกินเส้นซึ่งเป็นจุดแลนด์มาร์คสำคัญ นอกจากมีร้านจำหน่ายก๊วยเตี๋ยวเป็นหลักแล้ว ยังมีการแสดงน้ำพุดนตรีคู่กับพลุ และการประดับไฟสวยงาม การแสดงและประดับไฟสวยงามของสภาวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีนางนลินี ด่านชัยวิจิตร รองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดฯเป็นแม่งานใหญ่ เลยไปชมการประดับไฟและสักการะสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง
เข้าชุมความสวยงามของถนนเกษตรปลอดภัยของสำนักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตกแต่งไฟอย่างสวยงาม มีสินค้าเกษตรและกิจกรรมากมาย โดยเฉพาะการแสดง อีกทั้งบนถนนเส้นเดียวกันนี้ ยังมีการประดับอุโมงค์ไฟปีนี้สวยงามมาก
เดินเข้าไปเลือกซื้ออาหารของกินมากมายที่ตลาดย้อนยุค ก่อนและหลังชมการแสดงแสงเสียง ที่นี่นั่งแบบชิวๆ ชมการแสดงเรียกน้ำย่อย ก่อนเข้าชมแสงเสียง
ยังมีการจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลิตภัณฑ์ OTOP ของพัฒนาชุมชนถนนหน้า ททท.และศาลากลางเก่า สินค้าราคาถูก ซึ่งผู้เที่ยวชมงานจะได้ชื่นชมและรับความสุขอย่างเต็มที่ อันจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้กับประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศทุกท่าน มาร่วมเฉลิมฉลองมรดกโลกในงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” ไปด้วยกัน ระหว่างวันที่ 13 – 22 ธันวาคม 2567ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
