รับสมัคร นายกอบจ.-ส.อบจ.ตรัง วันแรกคึกคัก! บ้านใหญ่ตระกูลโล่ฯ-ส.ส.ตรังทุกพรรค-กองเชียร์นับพัน แห่ให้กำลังใจ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” สู้ศึกอีกสมัย “บุ่นเล้ง” ได้เบอร์ 1 หาเสียงง่าย พร้อมสานงานต่อ มติกีฬา-ท่องเที่ยวรองรับสนามบินนานาชาติ เข้มผู้สมัคร ลงพื้นที่พบชาวบ้านแม้ไร่คู้แข่ง หวั่น คนเลือกน้อยมีปัญหาอีก ผอ.กกต. เข้ม ปราบซื้อเสียง สั่งสายข่าวปูพรม-ประสานสันติบาล เตือน ลงคนเดียว ต้องได้คะแนนเกิน 10% ห้าม!แพ้ No Vote
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของการเปิดรับสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง(นายกอบจ.ตรัง) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง(ส.อบจ.ตรัง) ทั้ง 30 เขตเลือกตั้ง ในวันแรกวันที่ 23 ธันวาคม 2567 บรรยากาศคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ โดยตั้งแต่เวลา 07.00 น. ทีมแรกที่เดินทางมาถึงสถานที่รับสมัคร โรงยิม 4,000 ที่นั่ง สนามกีฬาทุ่งแจ้ง ภายในเขตเทบาลนครตรัง คือ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” นำโดยผู้สมัครนายกอบจ.ตรัง นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ หัวหน้าทีม อดีตนายกอบจ.ตรัง 1 สมัย ที่เพิ่งหมดวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี และเป็นพี่ชายคนสำคัญของตระกูลโล่สถาพรพิพิธ ตระกูลการเมืองตรังที่กำลังรุ่งพุ่งแรงในขณะนี้
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกาะติดบรรยากาศ พบว่าคึกคักเป็นอย่างมาก โดยว่าที่ผู้สมัครทีมใหญ่ คือ “ทีมนายกบุ่งเล้ง” นำโดยนายบุ่นเล้ง ซึ่งส่งลูกทีมครบทั้ง 30 เขต และล้นเขตโดยมีผู้ประสงค์ลงสมัครมากกว่า 37 คน มติที่ประชุมทีมจึงให้ส่วนที่เลือกลงแข่งขันได้อย่างอิสระในเขตที่มีผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้งมากกว่า 1 คน ทั้งนี้ตัวนายบุ่นเล้ง และลูกทีม อยากได้หมายเลข 1 ในการลงสมัครเลือกตั้ง จึงมาแต่เช้า ส่วนอีก 7 เขต ที่มีคู่แข่งก็มาพร้อมกันและต่างก็หวังจับคะแนนให้ได้หมายเลข 1 เช่นกัน เพื่อง่ายต่อการหาเสียง ส่วนผู้สมัครอิสระที่ไม่สังกัดทีมใดๆ ก็พบว่าทยอยมาลงทะเบียนเช่นกัน โดยทั้งหมดมาถึงสถานที่รับสมัครก่อนเวลารับสมัคร เพื่อมาลงทะเบียนก่อนและตรวจสอบเอกสารการสมัครเบื้องต้น
สำหรับทีมนายกบุ่นเล้งทั้งทีม ได้มาถึงสถานที่รับสมัครแต่เช้า โดยผู้สมัครที่ได้สวมเสื้อทีม “นายกบุ่นเล้ง” มีเพียง 30 คนจาก 30 เขต ที่ไม่มีคนกันเองลงแข่ง ส่วนอีก 7 เขต พบว่ามีผู้ประสงค์ลงสมัครทีม “นายกบุ่นเล้ง” แต่กฎหมายกำหนดให้ส่งได้เขตละ 1 คน นายบุ่นเล้ง จึงตัดสินใจไม่ให้ใครสวมเสื้อทีม และไม่ส่งใครลงสมัคร โดยให้ทุกคนลงสมัครในนามอิสระเพื่อแข่งขันกันเอง โดยมีความแตกต่างกันระหว่างเสื้อแจ็กเก็ตผู้สมัครในนามทีม ที่จะเป็นเสื้อแจ็กเก็ตเขนขาวสีฟ้าเข้ม สรีนสีขาวด้านหลังความว่า “ทีมนายกบุ่นเล้ง” ขณะที่ผู้สมัครอิสระที่ล้นเกินมานั้น สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีฟ้าเข้มเช่นกัน แต่ไม่มีข้อความสรีนด้านหลัง แต่ให้รณรงค์ในการหาเสียงว่า จะสนับสนุนนายบุ่นเล้ง เป็นนายกอบจ.ด้วย
นอกจากนี้สำหรับบรรยากาศวันนี้ได้มีกองเชียร์ ผู้ติดตาม มาร่วมเชียร์และให้กำลังใจจำนวนมาก มานั่งติดตามอย่างใกล้ชิดบนอัฒจันทร์ และล้นออกมานอกโรงยิม โดยเฉพาะคนในตระกูลโล่สถาพรพิพิธ ต่างพร้อมใจกันสวมเสื้อสีแดงมาให้กำลังใจนายบุ่นเล้งอย่างล้นหลาม นำโดยนายสมชาย โล่สถาพรพพิพิธ อดีตส.ส.ตรังพรรคปชป. บิดาของนางสาวสุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรังเขต 3 พรรคปชป. นายสมศักดิ์ โล่สถาพรพิพิธ อดีตส.ว. พี่ชายคนโต และยังมีภรรยา ลูกๆ หลานๆ ของนายบุ่นเล้ง มาร่วมให้กำลังใจด้วย ขณะที่บุคคลสำคัญเดินทางร่วมสังเกตการณ์การรับสมัครและให้กำลังใจนายบุ่นเล้งด้วยน อาทิ นายทวี สุระบาล ส.ส.ตรัง เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ นายถนอมพงศ์ หลีกภัย ส.ส.ตรังเขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยทั้งสองได้เข้าสังเกตกาณ์ถึงโต๊ะรับสมัคร ส่วนนายกาญจน์ ตั้งปอง ส.ส.ตรังเขต 4 พรรคปชป. ร่วมสังเกตุการณ์ด้านนอกโรงยิม ขณะที่กกต.จังหวัดตรังได้อำนวยความสะดวกเต็มที่ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยดูแลรักษาความเรียบร้อยทั้งบริเวณด้านหน้า และภายในอาคาร ขณะที่กองเชียร์เริ่มทยอยเดินทางมาก
นายสิรวิชญ์ ง๊ะสมัน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตรัง(กกต.ตรัง) กล่าวว่า โดยภาพรวมของการรับสมัครในวันนี้ไม่ว่าทางเจ้าหน้าที่วัสดุอุปกรณ์การให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องการยื่นใบสมัครเอกสารต่างๆ หรือเอกสารการเสียภาษีทางผู้สมัครได้เตรียมตัวมาอย่างดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พร้อมที่จะรับสมัครให้กับพี่น้องที่จะสมัครฝากถึงพี่น้องที่มีความสนใจจะสมัครสมาชิกอบจ. ก็สามารถเดินทางทยอยเข้ามาสมัครได้ ในภาพรวมวันนี้ไม่ว่าจากการประชาสัมพันธ์หรือว่าการสื่อสารให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่มีอยู่ ในส่วนของอบจ. ตรังได้มีการประชาสัมพันธ์แต่ในส่วนของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตรัง จะมีการรณรงค์โดยมีการคิกออฟ เดินรณรงค์ติดตามป้ายต่างๆ และสื่อสารทางเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตรัง ซึ่งวันนี้รู้สึกมีความตื่นเต้นและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยการรับสมัครนั้นจะเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่กำหนด ถ้าหากว่าผู้สมัครที่มาพร้อมกันก่อน 08.30 น. ตามกฎหมายถือว่ามาพร้อมกัน และให้ผู้สมัครได้ประชุมกัน โดยผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เมื่อประชุมเสร็จเรียบร้อย หากเขตไหนตกลงกันได้ก็ไม่ต้องจับฉลาก เขตไหนอำเภอไหนที่ตกลงกันไม่ได้ก็ต้องจับฉลากถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นการจับรายชื่อโดยเจ้าตัวเองเพื่อจัดลำดับที่จะไปจับลำดับการยื่นใบสมัคร ครั้งที่ 2 เป็นการจับหมายเลขโดยผู้สมัครเอง จับหมายเลขผู้สมัครแล้ว หากเราได้หมายเลข 1 ก็เป็นลำดับในการยื่นใบสมัคร หลังจากนั้นเราก็เดินไปตามไลน์ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้กำหนด เพื่อไปตรวจเอกสารหากปรากฏว่าเอกสารไม่ครบถ้วนหรือเงินไม่พอก็ต้องให้คืนกลับทั้งหมด และจะต้องไปต่อคิวลำดับสุดท้าย ลำดับที่จะได้ในครั้งนั้นก็ไม่ได้แล้ว แต่ถ้าหากว่าเอกสารหลักฐานครบถ้วนทางผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตรังก็จะออกใบรับใบสมัคร ใบรับใบสมัครนี้คือเบอร์หรือหมายเลขผู้สมัคร หลังจากนั้นเมื่อเราได้รับเบอร์แล้วเราไปประชาสัมพันธ์หรือไปหาเสียงเลือกตั้งตามเขตของเรา สำหรับเขตเลือกตั้งก็ทางอบจ.ได้ติดไว้เรียบร้อยแล้วที่ป้ายประชาสัมพันธ์
นายสิรวิชญ์ กล่าวว่า ในส่วนของพี่น้องที่เป็นกองเชียร์ สำหรับหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 899 หน่วย เลือดมีเพิ่มมีรถขึ้นอยู่กับว่าทางนายทะเบียนอำเภอนายทะเบียนท้องถิ่นเป็นผู้กำหนดหน่วย การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้แก่พ่อแม่พี่น้องที่มีสิทธิ์เลือกตั้งเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากซึ่งเราต้องไปเลือกตั้งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00- 17.00 น. การแข่งขันภาพรวมในวันนี้ การแข่งขันอยู่ในระดับไม่ถึงกับรุนแรงอยู่ในระดับปานกลาง ขณะนี้ทราบว่ามีอยู่ทีมเดียวหรืออาจจะมีผู้สมัครมาเพิ่ม 1-2 คน ในส่วนของส.อบจ. ก็น่าจะเป็นอดีตส. อบจเดิม อาจจะมีบางเขตในอำเภอเมือง อาจจะมีผู้สมัคร 6-7 คน
“อย่างไรก็ตาม แม้พื้นที่จังวัดตรังอาจจะมีคู่แข่งขันน้อย แต่กกต.ก็ทำงานเต็มที่ทั้งมิติการป้องกันปราบปราม โดยมีการเตรียมความพร้อมทั้งชุดสายสืบกกต.ลงพื้นที่เพื่อป้องกันและตรวจจับอารทุจริตการเลือกตั้ง การซื้อสิทธิ์ขายเสียง รวมทั้งการใช้ความรุนแรงต่างๆ ซึ่งกกต.ตรังได้ประสานการทำงานอย่างใกล้ขชิดกับตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ตลอดจนหน่วยงานด้านการข่าว อาทิตำรวจสันติบาลตรังเป็นต้น ทั้งนี้ สำหรับการเลือกตั้ง หากมีผู้สมัครเพียงรายเดียวสำหรับนายกอบจ.ตรัง กรณีถ้าหากไม่มีคู่แข่งในกฎหมายและระเบียบ ท้องถิ่นให้ต้องได้รับเสียงเลือกตั้ง 10% ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่มาเลือกเรา และต้องชนะผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน หรือโนโหวตด้วย นี่คือเงื่อนไขกรณีที่ไม่มีคู่แข่ง ต้องชนะโนโหวต ถ้าหากโนโหวตมากกว่า ก็ไม่ได้ ต้องมีการดำเนินการเลือกสมัครกันใหม่”ผอ.กกต.ตรังระบุ
ด้านนายทวี สุระบาลส.ส.ตรังเขต2พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเดินทางมายังสถานที่รับสมัครเลือกตั้งด้วย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาให้กำลังใจ ตนกับนายบุ่นเล้งก็เป็นเพื่อนกันรู้จักสนิทสนมกัน ในส่วนของจังหวัดตรังของเราไม่ได้มีการแข่งขันรุนแรงอะไร อยู่กันแบบสบายใจ แบบพี่แบบน้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุ่นเล้ง ได้รับหมายเลขผู้สมัครหมายเลข 1 ในการหาเสียง ท่ามกลางความดีใจของทีมและบรรดากองเชียร์ เพราะหาเสียงง่าย จากนั้นทั้งทีมจึงเดินออกมานอกสถานที่รับสมัคร ท่ามกลางบรรดาผู้สมัครสนุนแห่รุมล้อมมอบดอกกุหลาบ มาลัยดาวเรืองกันอย่างเนืองแน่นนับพันคน ก่อนจะปล่อยขบวนรถแห่หาเสียงกว่า 40 คัน โดยนายบุ่นเล้งได้เดินทางต่อไปสักการะอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ อดีตเจ้าเมืองตรัง บิดายางพาราไทย , พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 บริเวณด้านหน้าที่ทำการอบจ.ตรัง และสักการะศาลหลักเมืองตรัง เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย และเพื่อความเป็นสิริมงคล
นายบุ่นเล้ง ให้สัมภาษณ์หลังได้หมายเลข ถึงเสียงวิพากษ์จารณ์ว่าอาจไร้คู่แข่งชิงตำแหน่งนายกอบจ.ตรังในครั้งนี้ ว่า วันนี้ยังไม่มี เลยไม่ทราบ แต่ยังเหลือเวลาอีก 4-5 วัน แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ยังไม่แน่ แต่สำหรับทีมของตน พร้อม 100%ทุกเขต สำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้ นโยบายที่จะหาเสียง คือในส่วนที่เราทำมาแล้วก็ทำไป แต่เราจะเพิ่มแบบรุกเร้า คือ ด้านการท่องเที่ยว การกีฬา และที่สำคัญคืออบจ.ตรังต้องวางแผนงานรองรับการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะหากได้เข้าไปทำงานในวาระ 4 ปี จะมีความสอดคล้องกับการเปิดใช้งานของท่าอากาศยานนานาชาติตรังแน่นอน
“ต้องขอขอบคุณ วันนี้คึกคักดี มีทั้งญาติ เพื่อนผองน้องพี่ ชาวบ้านมาให้กำลังกันคึกคัก ผมก็อบอุ่น ทั้งท่านส.ส.ทวี สุระบาล ส.ส.ถนอมพงศ์ หลีกภัย ส.ส.กาญจน์ ตั้งปอง โดยหลังจากนี้ในการหาเสียง ผมก็ได้เน้นกับบรรดาน้องๆว่า เราต้องลงพื้นที่ให้เยอะ ไม่ใช่ว่าพอเราไม่มีคู่แข่งแล้ว เราจะลอยหน้าลอยตาอย่างเดียวไม่หาเสียงไม่ได้ เพราะถ้าคะแนนคนที่เลือกเราออกมาน้อยๆ มันก็จะกลายมาเป็นปัญหาอีก ส่วนความรุนแรงในการเลือกตั้งไม่มีครับ ที่ตรังส่วนมากเราหารือกันได้หมด เราไม่นิยมชมชอบความรุนแรงอยู่แล้ว”นายบุ่นเล้ง กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดว่าที่ผู้สมัครในตำแหน่งนายก อบจ.ตรัง ในขณะนี้ มีเพียงนายบุ่นเล้งคนเดียว ที่ประกาศตัวและเดินทางเข้ายื่นใบสมัคร ซึ่งไม่ทราบว่าจะมีคู่แข่งหรือไม่ เนื่องจากยังเป็นวันแรกของการรับสมัคร ทั้งนี้ การรับสมัครจะดำเนินการระหว่างวันที่ 23-27 ธันวาคม 2567 ณ โรงยิม 4,000 ที่นั่ง สนามกีฬาเทศบาลนครตรัง 2(ทุ่งแจ้ง)
