เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 24 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรับสมัครนายก อบจ.ระยอง และ ส.อบจ.ระยอง ระหว่างวันที่ 23-27 ธ.ค.นี้ ที่โรงยิมเนเซียม 2,500 ที่นั่ง สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง วันแรกของการรับสมัครบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยพรรคประชาชนส่ง ดร.ทรงธรรม สุขสว่าง อดีต ผอ.ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และพันธุ์พืช และอดีต หน.อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.ระยอง เดินทางมาพร้อมผู้สมัคร ส.อบจ.ระยอง ลูกทีมครบทั้ง 30 เขต ขณะที่นายปิยะ ปิตุเตชะ อดีตนายก อบจ.ระยอง 3 สมัย 17ปี ก็ได้เดินทางมาสมัคร พร้อมลูกทีมครบทั้ง 30 เขตเช่นกัน โดยได้จับมือกับ ดร.ทรงธรรม หลังเดินมาเจอหน้ากัน เนื่องจากมีความคุ้นเคยกันมาก่อน ส่วนนายสุวิทย์ เหล่าฤทธิไกร อดีตนักการเมืองท้องถิ่น ผู้สมัครนายก อบจ.ระยองอีกคน ก็ได้เดินทางมาพร้อมลูกทีมผู้สมัคร ส.อบจ.ระยอง 2 คน โดยทั้งหมดเดินทางมาลงทะเบียนก่อนเวลาเปิดรับสมัครถือว่ามาพร้อมกัน จึงต้องมีการจับสลากเบอร์ประจำตัว เพื่อใช้ในการหาเสียง แต่ปรากฏว่า ดร.ทรงธรรม ไม่ได้ลงชื่อลงสมัคร จึงได้หมายเลข 3 ส่วนนายสุวิทย์ จับได้เบอร์ 2 ขณะที่นายปิยะ อดีตนายก อบจ.ระยอง จับได้เบอร์ 1 ท่ามกลางเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีของกองเชียร์
นายปิยะ เปิดเผยว่า ตอนนี้เหลือแต่ให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจ เพราะว่าทั้งหมดตอนนี้ก็จะมีผู้ลงสมัครอยู่ 3 คน สำหรับคะแนนเสียงของคนรุ่นใหม่เราก็ต้องยอมรับ แต่ก็ต้องต่อสู้กันด้วยผลงาน การที่ประชาชนยอมรับเพราะว่าทุกคนสมัครมาเพื่อพัฒนาจังหวัดระยอง และที่สำคัญคือมาสมัครแล้วต้องทำอะไรให้คนระยอง ถ้าให้พูดว่าทำไมต้องเลือกผม เพราะผมพัฒนาจังหวัดระยองไว้เยอะทั้งด้านการศึกษา ท่องเที่ยว สาธารณสุข ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่สำเร็จ ยังขาดอะไรอยู่บางอย่าง ก็เลยอยากจะทำต่อ ถ้าประชาชนให้โอกาสผมอีกสมัยนึง ซึ่งเป็นสมัยสุดท้ายตามกฎหมาย ผมก็มีโอกาสทำสิ่งที่ผมทำไว้ต่อ ไม่ต้องไปเปลี่ยนอะไร ไม่ต้องไปเริ่มต้นใหม่ ก็ทำให้จบ จึงอยากจะขอโอกาสพี่น้องคนระยอง
ขณะที่นายสุวิทย์ เปิดเผยว่า เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน เนื่องจากตนเป็นคนทำงานดี และหากได้รับเลือกสิ่งแรกที่จะพัฒนาคือ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งเรื่องการศึกษา และสาธารณสุข
ด้าน ดร.ทรงธรรม เปิดเผยว่า ความพร้อมของพรรคฯ ได้มีการส่งผู้สมัคร ส.อบจ.ทั้ง 30 เขต ซึ่งที่ผ่านมามีกระบวนการทำงานโดยได้ลงพื้นที่รับปัญหาของประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง เอามาทำเป็นนโยบายของพรรคฯ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาของประชาชนได้ตรงจุดที่สุด ทั้งนี้ในส่วนที่อยากพัฒนาระยอง เนื่องจากที่ผ่านมาระยอง มีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก และมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นช่วงมี สส. ทั้งเรื่องกฏหมายประมง และปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ ได้รับการแก้ไขดีขึ้นมาก ซึ่งหากพี่น้องประชาชนให้โอกาสพรรคฯ คิดว่าจะสามารถทำงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้มากที่สุด
