ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด 1 ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตรวจยึด ยาบ้า 2 ล้านกว่าเม็ด ยาไอซ์ 46 กก. นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมผู้ต้องหา 4 ราย
วันที่ 23 ธ.ค.67 ที่หน้ากองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ อรัญยกานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.ธนารัตน์ มีทองหลาง ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครพนม พร้อมด้วยเหจ้าหน้าที่ฯ สืบสวน ภ.จว.นครพนม ร่วมแถลงข่าวว่า ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (ชปส.1 ศอ.ปส.ภ.จว.นครพนม) เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2567 ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด 1 ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (ชปส.๑ ศอ.ปส. ภ.จว.นครพนม) ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่า มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.มศรพนม ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการลักลอบลำเสียงยาเสพติดจำนวนมากจากจากจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาพราบและประสานการปฏิบัติไปยังเจ้าที่ตำรวจน้ำ ส.รน.1 กก.10 บก.รน. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หลักศิลา เพื่อบูรณาการร่วมกันในการปฏิบัติการครั้งนี้
จากนั้นได้ประชุมวางแผนเพื่อติดตามสถานการณ์ข่าวดังกล่าว กระทั่งเวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น. แหล่งข่าวแจ้งว่ากลุ่มผู้มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่มีความเคลื่อนไหว เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างให้ชิด ต่อมา แหล่งข่าวแจ้งให้ทราบว่ามีรถยนต์ลักษณะต้องสงสัยเข้ามาใบพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชดตรวจยึดจึงใต้กระจายกำลังตามจุดต่างๆเพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ส.รม.1 กก.10 ได้ทำการลาดตระเวนบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงในพื้นที่
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซปส.1 ศอ.ปล.ก.จว.นครพนม และเจ้าที่ตำรวจ สภ.หลักศิลา ได้สนธิกำลังกันเพื่อทำการตรวจสอบ เมื่อเดินทางไปถึงบริเวณที่ได้รับแจ้ง พบรถยนต์ลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว ขับออกไปจากบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงมุ่งหน้าขึ้นสู่ถนนหมายเลข 212 นครพนม – ธาตุพนม เจ้าหน้าที่ดำรวจจึงได้ขับรถยนต์ติดตามรถยนต์คันดังกล่าว จนมาถึงพื้นที่บ้านเหล่าน้อย ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พบรถยนต์ต้องสงสัยจอดอยู่บริเวณริมถนนหมายเลข ๒๑๒ สายนครพนม-ธาตุพนม จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าที่ตำรวจและขอทำการตรวจสอบ ปรากฏว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้ทำการขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่ดำรวจจึงได้ติดตามรถยนต์คันตังกล่าว
แต่รถยนต์คันดังกล่าวอาศัยความชำนาญในพื้นที่ขับหลบหลบหนีไปตามเส้นทางในหมู่บ้าน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง พราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณริมถนนลูกรังริมคลองส่งนำชลประทาน ในพื้นที่ ต.ธาตุพนมเหนือ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงบริเวณตามที่ได้รับแจ้ง พบรถยนต์ยี่ห้ออีซูซ รุ่น มิวเอ็กซ์ สีขาว ทะเบียน 8 กต 3435 กทม. จอดอยู่แต่ไม่พบผู้ขับขี่รถยนต์ดันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ได้ไฟส่องสว่างเพื่อทำการตรวจสอบภายในรถเบื้องต้นพบกระสอบสีดำ จำนวนหลายกระสอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่ากระสอบสีดำสีดำที่อยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าวคือสิ่งของมิตกฎหมาย จึงได้ทำการตรวจดีดแล้ว นำมาเก็บรักษาไว้ที่ กก.สส.ภ.จว.นครพนม เพื่อรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม ผลการตรวจสอบ ภายในรถปรากฏว่ามีกระสอบสีดำ จำนวน 6 กระสอบ ตรวจสอบภายในกระสอบพบเป็นยาบ้า จำนวน 2,018,000 เม็ด และ ไอซ์ จำนวน 46 ก้อน/ กก.)
ต่อมา วันที่ 12 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชปส.1 ศอ.ปส.ภ.จว.นครพนม พร้อมด้วยชุดขยายผลการจับกุม ชปส.1ศอ.ปส.ภ.จว.นครพนม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หลักศิลา ได้ทำการจับกุมตัวนายสมพงษ์หรืองอฯ (สงวนนามสกุล) ราษฎร ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.มครพนม ในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามึน) โดยผิดกฎหมาย” และได้ท้าการขยายผลการจับกุม ซึ่งปรากฏข้อมูลว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ สปป.ลาว จึงได้ทำการชักถามขยายผลโดยละเอียด จนทราบว่า นายสมพงษ์หรืองอฯ คือหนึ่งในผู้กระทำความผิดในคดีตรวจยึดยาบ้า จำนวน 2,018,000 เม็ด และไอซ์ จำนวน 46 ก้อน/กก. เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.67 ที่ผ่านมาในพื้นที่ สภ.หลักศิลา
หลังจากนั้น ชุดขยายผลการจับกุม ชปส.1 ศอ.ปส.ภ.จว.นครพนม ได้ทำการขยายผลเชิงลึกพบว่ามีผู้ร่วมขบวนการในครั้งนี้อีก จำนวน 3 ราย คือ นายนพดลหรือโจ้ฯ(สงวนนามสกุล), นายปรีชาหรือเขฯ (สงวนนามสกุล) และนายศรัณยูหรือเดียวฯ (สงวนนามสกุล) ซึ่งทั้ง 3 ราย เป็นราษฎรในพื้นที่ ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ บุคคลทั้ง 3 จากการตรวจจสอบบุคคล ทั้ง 3 ราย เบื้องต้นพบว่ากระทำความผิดฐาน”เสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย จึงได้ทำการขยายผลการจับกุมและปรากฎข้อมูลว่าเกี่ยวข้องกับคดีตรวจยึดยาเสพติด จำนวนดังกล่าว โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ให้การยอมรับว่าได้ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนดังกล่าวจริง ในการลักลอบลำเสียงยาเสพติดในครั้งนี้ผู้ต้องหาให้การาได้รับการว่าจ้างจากเจ้น้อย ราษฎรประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเงิน จำนวน 100,000 บาท จึงจะได้รับเงินค่าจ้างดังกล่าวเมื่องานสำเร็จ นำของกลางและผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หลักศิลา อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
