เครือข่ายประชาสังคมภาคเหนือ NGO ผนึกกำลังกดดัน พรรคการเมืองเร่งทำนโยบายรัฐสวัสดิการบำนาญชราภาพ ดูแลคนไร้ที่พึ่ง กองทุนสวัสดิการ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ระบบจัดเก็บภาษี สร้างสวัสดิการใหม่ เท่าเทียม ทั่วถึงจับต้องได้ เดินหน้าสร้างความเข้าใจประชาชนรวมพลังกดดันรัฐเร่งหลังเลือกตั้ง
การหาเสียงเลือกตั้งในจังหวัดแพร่ มีพรรคการเมืองหลายพรรคเข้าพื้นที่แสดงตัวกันแล้ว ส่วนใหญ่ยังเน้นไปที่การแนะนำตัวให้ประชาชนได้รู้จัก แต่พบว่าประชาชนในจังหวัดแพร่ และ จังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือ ต้องการเห็นนโยบายของพรรคการเมืองที่มุ่งไปสู่การให้ความสำคัญกับคนฐานราก โดยเฉพาะปัญหาช่องว่างระหว่างคนรวย กับคนจน ที่ทุกรัฐบาลที่ผ่านมายิ่งทำให้ปัญหาทวีความรุนแรงมากขึ้น คนจนเพิ่มขึ้นในขณะที่คนรวยมีฐานะการเงินดีขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้ประเทศไทยยังคงเป็นปัญหาในด้านสวัสดิการและการดูแลประชากร โดยเฉพาะกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การช่วยเหลือดูแลด้านความมั่นคงในชีวิตและสุขภาพจึงมีความจำเป็นมากสำหรับประชากรไทยที่กำลังมีฐานอายุที่เปลี่ยนไป คือ กลุ่มสูงวัยมีเพิ่มมากขึ้นและมากกว่าวัยแรงงาน ถ้าไม่มีการเตรียมตัวหรือสร้างความพร้อมในอนาคตปัญหาด้านคุณภาพชีวิตของประชากรไทยจะตามมากลุ่มประชาสังคมและ องค์กรพัฒนาภาคเอกชน ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ ได้จัดประชุมร่วมกันในหัวข้อเวทีพัฒนานโยบายรัฐสวัสดิการภาคเหนือฉบับประชาชน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมาที่โรงแรมบีพี อ.เมือง เชียงใหม่ เพื่อก่อกระแสการผลักดันนโยบายสาธารณะในเรื่องของสวัสดิการหลากหลายรูปแบบ อาทิ การจัดการระบบบำนาญผู้สูงอายุ การออมสวัสดิการ การช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ป่วยซึ่งต้องมีการพัฒนาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประกันสังคมให้เท่าเทียมกับสวัสดิการของรัฐ รวมไปถึงเกษตรกร ซึ่งต้องมีวิธีการจัดการโดยเฉพาะการจัดเก็บภาษีที่เหมาะสมในแต่ละกลุ่มวิชาชีพและฐานะของกลุ่มคน
นายคุณิกร คำยอง เครือข่ายพัฒนาผู้สูงอายุ กล่าวว่า เรื่องบำนาญเบี้ยยังชีพของผู้สูงอายุ พรรคการเมือง หรือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งควรทำนโยบายบำนาญแห่งชาติ โดยเปลี่ยนเบี้ยยังชีพเป็นบำนาญแห่งชาติ โดยมองที่เส้นความยากจนของประเทศ กลุ่มประชากรที่มีค่าครองชีพ 2,997 บาท / เดือน เป็นเกณฑ์แล้ว เสนอให้มีการกำหนดบำนาญพื้นฐานอยู่ที่ 3,000 บาท / เดือนให้กับผู้สูงอายุ ซึ่งขณะนี้ในฝ่ายภาคประชาชนกำลังยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายให้กับพรรคการเมืองต่างๆ รวม 11 พรรค แต่ยังพบว่าพรรคการเมืองเหล่านี้ยังไม่ให้ความสำคัญโดยดูจากสมาชิกพรรคที่ออกหาเสียงยังไม่ให้ความสำคัญกับการดูแลคนฐานราก
นางสุรีรัตน์ ตรีมรรคา เครือข่ายประชาชนขับเคลื่อนรัฐสวัสดิการภาคเหนือ กล่าวว่า นับเป็นโอกาสดีที่กำลังเข้าสู่การเลือกตั้ง จะมีผู้บริหารประเทศใหม่ ภาคประชาชนมีการเตรียมประเด็นพูดคุยถึงการผลักดันให้พรรคการเมืองและนักการเมืองหันมาให้ความสนใจการทำนโยบายช่วยเหลือสวัสดิการประชาชน โดยเฉพาะการจัดบำนาญถ้วนหน้าให้กับประชาชน เป็นหลักประกันทางรายได้ให้กับผู้สูงอายุ ซึ่งการมารวมตัวกันของภาคประชาสังคมพยายามนำแนวทางเสนอต่อพรรคการเมือง ไปแล้วใน 11 พรรคการเมือง ซึ่งคำเรียกร้องมาจากผลการสำรวจประชาชนพบว่ามีความกังวลมากเมื่อเข้าสู่อายุ 60 ปีในวัยชราภาพ จะไม่มีผู้ดูแลและรายได้พร้อมทั้งเงินสะสมไม่เพียงพอ ถือว่าเป็นข้อตกลงร่วมกันที่จะผลักดันให้รัฐบาลมีนโยบายดูแลผู้สูงอายุ โดยปรับเบี้ยยังชีพไปอยู่เท่ากับหรือมากกว่า ระดับความยากจน คือ 2,600 หรือ 3,000 บาทต่อเดือน และสนับสนุนให้คนในวัยทำงานทั้งหมดออมเงินด้วยตัวเอง ที่ผ่านมารัฐทำเรื่องกองทุนเงิน ออมแห่งชาติแต่ไม่มีการผลักดันหรือส่งเสริมให้กว้างขวางทำให้ประชาชนเข้าถึงได้น้อยมาก ถ้าเป็นไปได้คือการต่อยอดกองทุนการออมแห่งชาติต่อยอดให้เป็นบำนาญ ซึ่งพรรคการเมืองที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งต้องแสดงให้ประชาชนเห็นทิศทางเหล่านี้ก่อนตัดสินใจเลือก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: