อุบลราชธานี – จากกรณีญาติของ 2 ชายวัยรุ่นที่ประสบอุบัติเหตุ รถพุ่งชนต้นไม้เสียชีวิตในอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี แต่หลังการชันสูตรศพพบหัวกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.ในร่างของคนขับ จึงรู้ว่าการขับรถมาประสบอุบัติ เหตุรถชนต้นไม้ สองวัยรุ่นหนีด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ และถูกเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามมา แต่คนขับได้ถอยรถชนเจ้าหน้าที่ จึงใช้ปืนยิงสกัดแล้วขับหนี ไปประสบอุบัติเหตุนั้น
ความคืบหน้า ร.ต.อ.ชัชวาล จิตจักร พนักงานสอบสวน สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เจ้าของคดีได้เรียกตัว ส.ต.ท.วัชรวิชญ์ บุญเดช ผบ.หมู่งานปราบปรามปฏิบัติหน้ าที่งานจราจร สภ.วารินชำราบ เข้ามารับทราบข้อหากระทำโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามพยานหลักฐานที่ในคืนวันเกิดเหตุ ส.ต.ท.วัชรวิชญ์ เป็นผู้ใช้อาวุธปืนพกประจำกายยิงเข้าใส่รถของผู้เสียชีวิต
สำหรับการสอบสวนดำเนินคดี ขณะนี้ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุ บลราชธานี เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบสวนลงไปร่วมสอบสวนกับพนักงานสอบสวนของ สภ.วารินชำราบ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและโปร่งใสของรูปคดี พร้อมจะเชิญครอบครัวของผู้เสียชีวิตเข้าร่วมด้วย เพื่อความสบายใจของฝ่ายผู้เสียชีวิตในกรณีที่เกิดขึ้น
ด้าน พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ศิริพัฒน์ธนภาค ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ตนได้กำชับด่านตรวจทุกด่าน ให้ระมัดระวังการปฎิบัติหน้าที่ หากพบการกระทำความผิดในการหลบหนีด่าน ให้ใช้เทคโนโลยีในการติดตามจับกุม เช่นติดตั้งกล้อง CCTV ประจำด่าน เพื่อบันทึกภาพและติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี ในภายหลัง ไม่ให้ไล่ติดตามแบบเอาเป็นเอาตาย เพราะจะมีผลเสีย ไม่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ก็มีผลเสียกับประชาชน
ทางด้านคดีที่เกิดขึ้นนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ให้ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย พร้อมทั้งได้มีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริงร่วมอีก 1 คณะ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายด้วย
ด้านนายธนูศิลป์ อาทิเวช อายุ 50 ปี บิดาของนายธนากร หรือทีช อาทิเวช อายุ 20 ปี ซึ่งพบหัวกระสุนที่คาดว่าเป็นหัวกระสุนจากปืนของ ส.ต.ท.วัชรวิชญ์ ที่ยิงใส่ตัวรถแล้วทะลุ มาโดนปอดของลูกชายกล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุ ยังไม่เคยพบหน้า ส.ต.ท.วัชรวิชญ์ มีแต่คุณพ่อและคุณแม่ของ ส.ต.ท.วัชรวิชญ์ มาร่วมงานศพและแสดงความเสียความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะนี้ ตนเริ่มรู้สึกสบายใจขึ้น เมื่อทราบว่าพบตัวผู้ที่กระทำผิด และเข้ามารับทราบข้อหาตามที่ได้ ทำไป ไม่คลุมเครือเหมือนช่วง 2-3 วันที่ผ่าน เพราะขณะนั้น ไม่ทราบว่า ลูกชายและเพื่อนของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหรือจากอะไรกั นแน่
สำหรับการดำเนินคดีก็ต้องการให้มีคณะกรรมการฝ่ายอื่นเข้ามาร่วมสอบสวนด้วย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้ สองฝ่าย ซึ่งหลังเสร็จงานศพก็จะหารือกับครอบครัวของน้องเจมส์ นายพัทธดนย์ มหานิล อายุ 20 ปี เพื่อนของลูกชายที่เสียชีวิตด้วยกัน จะดำเนินการอย่างไรต่อในช่วงหลังปีใหม่ต่อไป
ข่าวโดย : เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: