ศูนย์ปฏิบัติการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดตาก แถลงข่าวผลการปฏิบัติงานช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 พบว่าสถิติอุบัติเหตุสูงขึ้นแต่ไม่มีผู้เสียชีวิต
เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2562 ที่ห้องประชุมสายประทีป ศาลากลางจังหวัดตาก นายชุติเดช มีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวผลการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 จังหวัดตาก ช่วงควบคุมเข็มข้นระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2561 ถึง 2 มกราคม 2562 โดยจังหวัดตากมีการระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงาน บูรณาการจัดตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจร่วม ในพื้นที่ 9 อำเภอ รวม 19 จุด ด่านชุมชน 109 จุด จุดอำนวยความสะดวกและบริการประชาชน 89 จุด มีเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติงานเฉลี่ย 537 คนต่อวัน เป้าหมายเพื่อให้ประชาชนเดินทางสัญจรอย่างปลอดภัยและมีความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2562
นายกลวัชร ทรัพย์ส่งสุข หัวหน้าสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตาก กล่าวว่า ข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 เปรียบเทียบกับช่วงเทศกาลปีใหม่เฉลี่ย 3 ปี ย้อนหลัง มีดังนี้ จำนวนการเกิดอุบัติเหตุ 51 ครั้ง เพิ่มขึ้น 7 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 57 ราย เพิ่มขึ้น 11 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ลดลงคิดเป็นร้อยละ 100 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ สาเหตุขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ประเภทถนนที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ถนนใน อบต./หมู่บ้านนอกจากนี้ จำนวนผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรการหลัก 10 มาตรการ มีจำนวน 6,420 ราย สูงสุด คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย 2,620 ราย รองลงมาไม่มีใบขับขี่ 1,581 ราย ส่วนพฤติกรรมเมาแล้วขับมีผู้ถูกดำเนินคดี 190 ราย
นายนายชุติเดช กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ของจังหวัดตาก ส่วนใหญ่เกิดจากรถจักรยานยนต์ สาเหตุมาจากขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด เมาสุรา และตัดหน้ากระชั้นชิด ดังนั้นต้องมีการเข้มงวดกวดขัน และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพิ่มมาตรการตรวจจับ เมาแล้วขับ ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด แก่ผู้กระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการทางสังคมในระดับพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน ซึ่งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดตาก จะมีการประชุมเพื่อถอดบทเรียนผลการดำเนินงานช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 มากำหนดแนวทาง มาตรการในการแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่ และหลังจากนี้ยังต้องดำเนินการรณรงค์ป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นช่วงเทศกาลหรือช่วงเวลาปกติ โดยเน้นให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในทุกชุมชน และต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดตลอดปี เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนต่อไป
