ระนอง สั่งเตรียมพร้อมเครื่องสำรองไฟพร้อมรับมือไฟดับเหตุปาบึกถล่ม
ระนอง—ผวจ.ระนอง ประกาศใช้อำนาจตามพ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ม.15 วรรค2 เตรียมพร้อมเต็มพิกัดรับมือพายุ ปาบึก ที่คาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่าน จ.ระนองในวันที่ 4-5 ม.ค.2562 นี้ สั่งพื้นที่เร่งเตรียมพร้อม 4 ด้าน กำลังคน,อุปกรณ์,ประชาชน,ศูนย์ระดับอำเภอ,ท้องถิ่น พร้อมประสานการไฟฟ้าเร่งสำรวจจุดเสี่ยงเสาไฟฟ้าล้ม และให้หน่วยราชการเร่งสำรองแหล่งพลังงานสำรองไว้กรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเสาไฟฟ้าล้มและไฟฟ้าดับ
นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า ทางจังหวัดระนองโดยผู้ว่าราชการจังหวัดระนองนายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ได้ประกาศใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ม.15 วรรค 2 ซึ่งให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจสั่งการในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือเกิดพิบัติภัย โดยขณะนี้ทางจังหวัดได้สั่งให้มีการดำเนินการใน 4 เรื่องเร่งด่วน ประกอบด้วย 1.เรื่องการจัดเตรียมกำลัง จนท,หรือกำลังคนในทุกหน่วยงานที่จะต้องเตรียมพร้อมตามแผนรับมือพิบัติภัย 2.การจัดเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในการสนับสนุนการกู้ภัย และรับมือพิบัติภัย 3. การเตรียมพร้อมของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวใน จ.ระนอง รวมประมาณ 2 แสนคน ที่ต้องรับฟังข้อมูลข่าวสารและปฏิบัติตามข้อสั่งการจากศูนย์สั่งการอย่างใกล้ชิด 4.การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการและศูนย์อำนวยการระดับอำเภอ และระดับท้องถิ่นโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 30 แห่งใน 5 อำเภอ จะต้องดำเนินการ โดยมี องค์การบริหารส่วนจังหวัดระนองเป็นผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัดระนองในการสั่งการและดำเนินการเตรียมพร้อมรับมือพิบัติภัย
รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ระนอง หรือ ปภ.ระนอง เร่งประสานไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคให้เตรียมความพร้อมในการรับมือกับผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดลมกระโชกแรงจากอิทธิพลของลมพายุ ที่ปัจจุบันพายุมีความเร็วลมบริเวณศูนย์กลางพายุที่ 95 กม.ต่อ ชม. แต่เมื่อขึ้นฝั่งความเร็วลมจะลดลงเหลือ 50-60 กม.ต่อ ชม. แต่ก็ยังเป็นความเร็วที่อาจสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน รวมทั้งเสาไฟฟ้าที่อาจโค่นล้มเสียหายได้ และส่งผลกระทบให้เกิดกระแสไฟฟ้าดับได้ พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้โรงพยาบาล หน่วยงานราชการเตรียมพร้อมจัดหาไฟฟ้าสำรองไว้ตั้งแต่ตอนนี้เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น ส่วนประชาชนอย่าได้วิตกและตื่นตระหนก แต่ให้ปฏิบัติตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์โดยการติดตามข่าวสารจากทางศูนย์อย่างใกล้ชิด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: