ปภ.เตือนจังหวัดชายฝั่งภาคตะวันออกฝนตกหนัก,ดินโคลนถล่มและคลื่นลมแรง
ตามที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ได้แจ้งให้จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์และจังหวั ดทางภาคใต้ เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์พายุ โซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) อย่างใกล้ชิดมาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้พบว่าหลายจังหวัดได้รั บผลกระทบจากพายุโซนร้อน “ปาบึก” เป็นวงกว้าง นั้น
กรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีประกาศฉบับที่ 25 (23/2561) ลงวันที่ 5 มกราคม 2562 เวลา 16.00 น. แจ้งว่าพายุโซนร้อน “ปาบึก” ได้อ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชั่ นและได้เคลื่อนตัวลงทะเลอันดามั น โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากชายฝั่ งทางทิศตะวันตก ของอำเภอตำกั่วป่า จังหวัดพังงา ประมาณ 55 กิโลเมตร ลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้มี ฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยคลื่นลมบริเวณอ่ าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลั งแรง มีคลื่นสูง 3-5 เมตร จึงขอให้จังหวัดเฝ้าระวังและติ ดตามสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และคลื่นลมแรง อย่างใกล้ชิดในช่วงวันที่ 5-7 มกราคม 2562
พื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนักและคลื่นลมแรง จังหวัดตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต และจังหวัดกระบี่
พื้นที่เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม จังหวัด ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต และจังหวัดกระบี่
ในการนี้ กองอำนวยการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง จึงขอเน้นย้ำให้จังหวัดต่าง ๆดำเนินการ ตามนโยบายตลอดจนข้อสั่งการต่าง ๆ ที่เคยสั่งการไปก่อนแล้วอย่างเคร่งครัด ได้แก่
1.จังหวัดที่จัดตั้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดให้บูรณาการ การปฏิบัติงานกับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทุกเหล่าทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งประเมินความเสี่ยงและเตรียมพร้อมทุกด้านเพื่อลดผลกระทบกับพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด
2.จังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล ยังคงให้มีการประกาศห้ามการเดินเรือ และงดการลงเล่นน้ำบริเวณชายฝั่ง พร้อมทั้งจัดเตรียมเรือให้พร้อมสำหรับการเข้าช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ สำหรับจังหวัดตราด จันทบุรี ระยอง และจังหวัดชลบุรีชาวเรือควรงดการเดินเรือเล็ก
3.หากพื้นที่ใดมีฝนตกหนักเป็นระยะเวลานานอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากและโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงดินถล่มตามแนวภูเขา ให้เตรียมทัพยากรต่าง ๆ ให้พร้อมสำหรับการเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วพร้อมทั้งให้เตรียมสถานที่ปลอดภัยสำหรับการอพยพประชาชนให้พร้อม
4.ขอให้จังหวัดดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ เพื่อสร้างการรับรู้ ตลอดจนสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน และประชาชาต้องได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง
