ปราจีนบุรี – ชาวบ้านในพื้นที่บ้านแก่งใหญ ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ร้องเรียนสื่อมวลชน หลังหน่วยงานราชการนำลูกจระเข้ไปปล่อยลงอ่างเก็บน้ำห้วยโสมง หรืออ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา หวั่นเป็นอันตรายในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านแก่งใหญ่ หมู่ 12 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ได้ร้องเรียนร้องทุกข์ผ่านสื่อมวลชน หลังพบหน่วยงานรัฐใน จ.ปราจีนบุรี ปล่อยลูกจระเข้พันธุ์น้ำจืด ลงในเขื่อนห้วยโสมง หรืออ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา โครงการในพระราชดำริ หลังพบว่าขณะออกหาปลาในเวลากลางคืน ได้พบเห็นจระเข้น้อยลอยคอตาแดง ๆ เต็มเขื่อน
ทั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว จึงได้รวมตัวกันกว่า 100 คน เพื่อขอคำชี้แจงจากหน่วยงานของรัฐที่ศาลาประชาคมหมู่บ้าน ม.12 บ้านแก่งใหญ่ ต.แก่งดินสอ ซึ่งได้รับการชี้แจงจากคณะสัตว์แพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดย สพ.ญ.นรีรัตน์ สังขะไขย แจ้งว่า การที่คณะสัตว์แพทย์มหาวิทยาลัยหิดล ร่วมกับกรมประมงและกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ,อุทยานแห่งชาติปางสีดา ได้ทำการปล่อยปล่อยจระเข้พันธุ์น้ำจืดลงในแหล่งน้ำจืดจริง
โดย สพ.ญ.นรีรัตน์ บอกว่า จระเข้น้ำจืดที่ปล่อยไปมีจำนวนเพียง 20 ตัว ด้วยเหตุผลที่ว่า ก่อนหน้านี้อุทยานแห่งชาติปางสีดา ถือเป็นถิ่นกำเนิดของจระเข้น้ำจืด ซึ่งพบว่า มีจระเข้น้ำจืดอาศัยอยู่ได้ และไม่ทำร้ายคน ที่นี่เป็นแหล่งอาหารที่ดีและอ่างเก็บน้ำห้วยโสมง เป็นเขตติดต่อกับสายน้ำปางสีดา จระเข้น้ำจืดสามารถดำรงชีพอยู่ได้ ทางคณะได้ทำการวิจัยมาระยะหนึ่งแล้วจึงทดลองนำจระเข้น้ำจืดมาปล่อยที่นี่ เพื่อเป็นการอนุรักษ์พันธุ์จระเข้น้ำจืดไว้เป็นแหล่งศึกษา ที่ผ่านมาได้มีการปล่อยจระเข้ตามแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 3 แห่ง ไม่พบจระเข้น้ำจืดทำร้ายคน
อย่างไรก็ตาม ด้านประชาชนในพื้นที่บ้านแก่งใหญ่ แสดงความเห็นว่า ไม่เข้าใจและไม่เห็นกับวิธีการดังกล่าว ที่ทางการนำจระเข้มาปล่อยลงในอ่างเก็บน้ำห้วยโสมงแห่งนี้ เพราะอ่างเก็บน้ำห้วยโสมงเป็นแหล่งทำกิน-แหล่งทำประมงพื้นบ้านของประชาชน ประชาชนที่มีอาชีพทำประมงเลี้ยงชีพ หากต่อไปจระเข้ที่นำมาปล่อยใหญ่ขึ้นกัดชาวบ้านที่ออกไปหาปลาใครจะรับผิดชอบ
นางสำเนียง ศิริอ่อน ได้ตอบข้อซักถามและคัดค้านไม่เห็นด้วยที่มีการเอาลูกจระเข้มาปล่อยในอ่างเก็บน้ำ อาจจะเกิดอันตรายต่อชาวบ้านที่ออกหาปลา ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านที่หาปลา บอกว่า จระเข้ติดตาข่ายมาหลายตัวแล้ว โดยทางคณะฯจะได้นำข้อเสนอของประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกลับไปพิจารณาต่อไป
——————————
ข่าวโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
ขอบคุณข้อมูล-ภาพ/ไอเอ็นเอ็น
