นครพนม – วันที่ 19 ม.ค.62 บริเวณเวทีภายในสวนสาธารณะชมโขง ถนนอภิบาลบัญชา ข้างสำนักงานเทศบาลเมืองนครพนม พรรคเพื่อชาตินำทีมปราศรัยให้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อชาติทั้ง 4 เขต ประกอบด้วย เขต 1 ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ เขต 2 นายเศวต ทินกูล อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.50) เขต 3 นายหนุ่มเก้าเก้า พาณิชย์ดี และเขต 4 นายวันไสว ฝาละมี นำทีมโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในฐานะกองเชียร์พรรคเพื่อชาติ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ (นายห้างอิมพีเรียล) หัวหน้าพรรค นายอารี ไกรนรา รอง หน.พรรคฯ นายยงยุทธ ติยะไพรัช เจ๋ง ดอกจิก รังสี เสรีชัย โดยมีป้ายบนเวทีว่า สถาบันพรรคการเมือง พรรคเพื่อชาติ พรรคของคนเสื้อแดง จ.นครพนม มีประชาชนร่วมฟังปราศรัย ประมาณ 400 คน
นายยงยุทธฯ กล่าวว่า พรรคเพื่อชาติ เข้ามาเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ เพราะมีมือที่ 3 เข้ามาจะปฏิรูปประเทศ เชิญให้พวกตนไปพบที่สโมสรกองทัพบก แล้วนำไปยังค่ายทหาร ว่าประเทศมีปัญหา จึงทำให้การยึดอำนาจ เพื่อเข้าบริหารประเทศ ซึ่งตลอดระยะเวลา 4-5 ปี ประชาชนไม่มีความสุข ทำให้สมาชิกของพวกตน หนีไปอยู่กับพวกเขา จึงอยากจะบอกชาวนครพนมว่า เมื่อมาฟังปราศรัยแล้ว ช่วยไปบอกเพื่อนบ้านว่า เพื่อความสงบสุขอยู่ดีกินดี อย่าไปเลือกพวกเขา หลังมีการยึดอำนาจแล้ว ก็ทำให้ชาวบ้านกระเป๋าแห้งทุกวัน เกษตรกรพี่น้องชาวไร่ชาวนาเดือดร้อน ข้าวราคาถูก ตรงกันข้ามกับชาวจีนที่เข้ามาซื้อผลิตภัณฑ์การเกษตรคนไทย เช่น ทุกเรียน ลิ้นจี่ ลำไย ไปขายที่ประเทศเขา กลับร่ำรวยไปตาม ๆ กัน และบัตรทอง 30 บาท รักษาทุกโรค ที่เกิดขึ้นในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นไปด้วยดี พรรคเพื่อชาติเห็นว่ามีประโยชน์แก่ประชาชน ซึ่งทุกตำบลต้องมี โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) มีนายแพทย์ประจำ พยาบาลคอยดูแลรักษาชาวบ้าน ยามเจ็บไข้ได้ป่วย ตลอดจนอุปกรณ์การแพทย์ครบครัน ไม่ต้องมารักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัด
ส่วนทางด้านการเกษตร ด้วยความงี่เง่าของรัฐ ไม่มีโกดังเก็บผลผลิตทางการเกษตร ทำให้เกิดการเน่าเสีย ไม่มีนโยบายขายข้าวให้กับต่างประเทศ เวลาจะทำอะไร จะคิดถึงผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก พรรคเพื่อชาติจึงมีโครงการ สร้างโกดังหรือเช่าที่ไว้ในต่างประเทศ เพื่อเก็บรักษาให้ผลผลิตทางการเกษตรไม่เสียหาย
ปัญหาแรกที่พรรคเพื่อชาติจะเข้ามาแก้ไข คือ จะยกเลิกสัมปทานเหล้าให้หมด รวมทั้งกลุ่มสัมปทานแหล่งแร่ ที่ขนไปขายต่างประเทศ ต้องตรวจสอบว่าเสียภาษี ถูกต้องหรือไม่ นอกจากนี้นายยงยุทธยังโอ่ว่าพรรคเพื่อชาติเป็นพรรคที่ไม่เคยลงเลือกตั้ง เมื่อเปิดเผยตัวเองก็ประสบความสำเร็จแล้ว
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ เมื่อเดินทางมาถึงเวทีปราศรัย ก็มีแฟนคลับเข้าไปล้อมหน้าล้อมหลัง เพื่อขอถ่ายรูป บางรายแหวกวงล้อมเข้าไปโดดกอดพร้อมกับหอมแก้ม จนนายจตุพรแสดงอาการเขินอาย จากนั้นก็ขึ้นเวทีกล่าวว่าการมาถึงนครพนม ทำให้คิดถึงท่านไขแสง สุกไส และ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ทุกครั้ง เพราะทั้งสองท่านเป็นผู้มีใจรักระบอบประชาธิปไตยเต็มตัว ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ประชาชนยากจนกันทั่วประเทศ มีการเลื่อนการเลือกตั้งมาตลอดเวลา จึงบอกพวกคุณบุญเลื่อนว่า ถึงเวลาเลือกตั้งเมื่อไหร่ พรรคเพื่อชาติก็ชนะเมื่อนั้น ถ้ามีการเลือกตั้ง จะทำให้คนไทยหายจน
นายจตุพรกล่าวต่อว่า เมื่อปี 2552 มีรัฐบาลเข้ามาแก้ไขความยากจน ก็ต้องถูกปฏิวัติ หัวหน้าพรรคเพื่อชาตินายสงคราม อดีตเป็นคนจนมาก่อน ต้องอดมื้อกินมื้อ แต่ดิ้นรนทำงานจนประสบความสำเร็จ กลายเป็นเศรษฐีพันล้าน และสาเหตุที่พี่น้องชาวไร่ ชาวนา ยากจเพราะขายข้าวขาดทุน เศรษฐกิจตกต่ำ ชาวบ้านไม่มีกำลังซื้อ พรรคเพื่อชาติต้องการเข้ามาแก้ไขปัญหา คือมีประชาธิปไตย คนไทยจะได้เลิกจน ตนไม่มีสิทธิ์ลงเลือกตั้ง เพราะติดล็อกถึง 10 ปี เมื่อลงไม่ได้ จึงหันมาสนับสนุนพรรคเพื่อชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาของชาติและรับใช้แผ่นดิน
ด้านนายสงคราม กิจเลิศไพบูลย์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ถ้าตนเป็นฝ่ายรัฐบาล ก็ได้เป็นรัฐมนตรีแล้ว แต่ถ้าอยู่เฉย ๆ ไม่ลงมาช่วยพรรคพวก ก็ไม่ยุติธรรม เช่นนายจตุพรต่อสู้เพื่อประชาชนมาหลายปี จนเข้าออกคุกมาแล้ว 4 ครั้ง ถึงวันนี้ชาวบ้านยังยากจน ข้าว ยาง ปาล์ม ราคาตก ต่างขายผลิตผลการเกษตรล้วนขาดทุน
นายสงครามกล่าวต่อว่า จะให้ชาวนาเลิกปลูกข้าว หันไปปลูกหมามุ่ย แล้วเอาไปขายใคร ชาวสวนยางจะตายอยู่แล้ว เพราะราคา 3-4 กก./100 บาท รัฐบาลประกาศปี 2561 คนจนจะหมดประเทศ แต่ปี 2562 กำลังจะอดตายกันหมด แล้วเอาเงินภาษีประชาชนไล่แจก 300 – 500 บาท และจะแจกอีก 1,000 บาท “ มีนักข่าวไปถามรัฐมนตรีคนหนึ่ง ว่า ชาวบ้านจะตายอยู่แล้ว สินค้าราคาตกต่ำ แล้วยังชายไม่ออก จะเอาสินค้าไปขายให้ใคร จะให้ไปขายที่ดาวอังคารหรือ ปาล์มน้ำมันราคาก็ต่ำ ชาวบ้านอยู่ไม่ได้ เงิน 300 – 500 บาท ไม่ต้องแจกชาวบ้านหรอก ขอให้ราคาสินค้าดี ราคาสูง ก็พอแล้ว ชาวบ้านอยู่ได้ คิดว่าหลังการเลือกตั้ง ไม่มีการแจกเงินอีกแล้ว แต่ถ้าเขาแจกให้สัก หนึ่งหมื่นบาท ก็อย่าปฏิเสธ เขาให้เราเอง ไม่ได้ไปขอเขา เงินนี้เป็นภาษีของเรา ไม่มีบุญคุณต่อกัน”
และนายสงครามกล่าวย้อนไปปี 2540 ประเทศไทยเป็นหนี้ IMF 6 แสนกว่าล้านบาท พอนายทักษิณฯ เข้ามาบริหารประเทศได้ 2 ปี ก็ใช้หนี้หมดแล้ว และตั้งใจให้ปี 2552 คนจนจะหมดประเทศ มีสินค้าราคาดี แต่รัฐบาลปัจจุบันเก่งกว่ารัฐบาลทักษิณ เป็นหนี้ 6.8 ล้านล้านบาท แล้วจะให้เขาอยู่ต่ออีกไหม เวลานี้คุณบุญเลื่อน (รัฐบาล) เลื่อนเลือกตั้งไปอีก เราก็คงจะจนอีกต่อไป เพราะเขาเขียนยุทธศาสตร์ บริหารประเทศไว้ 20 ปี
พรรคเพื่อชาติ จะทำให้ราคาสินค้าดี มีราคา เวลานี้คนจน ตีนไม่ติดดินแล้ว แต่จมดินไปแล้ว เศรษฐีบางคนร่ำรวยมหาศาล มีที่ดินเท่ากับ 3 จังหวัดรวมกันถึง 1.2 ล้านไร่ แม้เจ้าสัวร้านสะดวกซื้อ มีที่ดินถึง 6 – 8 แสนไร่ จากนั้นทางคณะได้เดินทางไปต่อ ที่ อ.เรณูนคร
