พิษณุโลก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ประชุมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือ 17 จังหวัด เพื่อทำความเข้าใจและเตรียมความพร้อมในการลงสมัครหาเสียงในพื้นที่ของตนเอง หลังจากมีประกาศพระราชกิจฎีกาให้มีการจัดการเลือกตั้ง พร้อมเดินหาเสียงในพื้นที่พิษณุโลก 
เวลา 10.30 น. ของวันที่ 25 ม.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมวังจันทน์ริเวอร์วิว จ.พิษณุโลก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เดินทางมาที่ประชุมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือ 17 จังหวัด จำนวนกว่า 30 คน เพื่อทำความเข้าใจและเตรียมความพร้อมในการลงสมัครหาเสียงในพื้นที่ของตนเอง หลังจากมีประกาศพระราชกิจฎีกาให้มีการจัดการเลือกตั้ง ทำให้ว่าที่ผู้สมัครต้องเตรียมพร้อม ทั้งการเตรียมเอกสารยื่นแก่ กกต. และการลงพื้นที่หาเสียงของตัวผู้สมัครเอง โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้กล่าวกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหมด ว่าให้ไปศึกษาและส่งแผ่นผับ แนะนำตัวแก่ประชาชนให้เร็วที่สุด ไม่ว่าจะยื่นกับมือ หรือ ส่งไปทางไปรษณีย์ เนื่องจากผู้สมัครทั้งหมดเป็นส.ส.หน้าใหม่ ต้องมีการแนะนำตัวโดยเร็วที่สุด คาดว่าจะ กกต.จะประกาศให้มีการรับสมัครในวันที่ 4 ก.พ.นี้อย่างแน่นอน
จากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้เปิดงานอบรมสมาชิกพรรคเสรีรวมไทย ตามหัวข้อ “วิศวกรการเมือง ขุนศึกผู้กล้านักรบเสรีรวมไทย” แก่ผู้ช่วยผู้สมัครหาเสียง เพื่อให้ลงพื้นที่หาเสียงแบบถูกกฎหมาย หลังจากนั้นหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยว่า ทางพรรคพร้อมที่จะลงเลือกตั้งในครั้งนี้แล้ว และคาดว่าประชาชนให้ความสนใจหันมาเลือกพรรคเสรีรวมไทยมากขึ้น เนื่องจากต้องการเปลี่ยนแปลงระบบเก่าๆ และเข้าไปแก้ไขปัญหาประเทศชาติ
หลังจากนั้นคณะของหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้ไปเดินหาเสียงที่ตลาดนัดวัดธรรมจักร อ.เมืองพิษณุโลก ได้รับความสนใจจากพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนมาขอถ่ายรูปด้วยจำนวนมาก ก่อนจะมีปราศรัยอีกครั้งในช่วงเย็นวันนี้ที่เวทีสวนชมน่านเฉลิมพระเกียรติ อ.เมืองพิษณุโลก
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดเผยว่า พรรคเตรียมพร้อมส่งผู้สมัครส.ส.เขต 350 เขต และส.ส.ปาร์ตี้ลิส 150 คน โดยจะเสนอชื่อตนเป็นผู้ชิงนายกรัฐมนตรีในลำดับ 1 ของพรรค ส่วนลำดับที่ 2 และลำดับที่ 3 ก็เตรียมพร้อมแล้วในวันสมัคร พรรคเสรีรวมไทยเป็นพรรคใหม่ และมีผู้สมัครส.ส.หน้าใหม่แทบทั้งสิ้น แต่จากการลงพื้นที่หาเสียง เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับจากประชาชนพอสมควร โดยชูนโยบายประกอบไปด้วย 1 หยุดความยากจน แก้ปัญหาปากท้อง สร้างความกินดีอยู่ดี 2 หยุดคอรัปชั่น ฉ้อราษฏร์บังหลวง 3 หยุดยาเสพติด ขจัดผู้มีอิทธิพล 4 หยุดเผด็จการ และปฏิรูปทหาร 5 หยุดไฟใต้สร้างสังคมสันติสุข และ 6 หยุดสงครามสีเสื้อสร้างความปรองดองก้าวสู่อนาคต”
//////////////
