วันที่ 15 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.30 น. ภายในกองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง(นรข.) นครพนม นายดำรงค์ สิริวิชย อิ่มวิเศษ รอง ผวจ.นครพนม น.อ.กษิดิ กลิ่นศรีสุข ผบ.นรข.เขตนครพนม พ.ต.อ.สมนึก มิควาฬ รอง ผบก.ภ.ฯ ว่าที่ ร.ต.ภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอท่าอุเทน พ.ต.ท.อัศรายุทธ ทองลอง สว.ตำรวจน้ำนครพนม พ.ต.ท.ฌานนท์ เนื่องกัลยา รอง ผกก.ป.สภ.ท่าอุเทน และกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมกันแถลงผลการจับกุมรถยนต์ข้ามชาติ จำนวน 2 คัน
น.ท.อดิศักดิ์ ภานุโรจนากร หัวหน้าสถานีเรือนครพนม รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า จะมีขบวนการค้ารถยนต์ข้ามชาติ เตรียมจะส่งขายให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน จึงสนธิกำลังออกลาดตระเวนตามพื้นที่เสี่ยง เวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 14 ม.ค.61 พบเรือกีบเพลายาวติดเครื่องยนต์แบบเก็บเสียง จำนวน 2 ลำ แล่นล่องมาจากทางด้านทิศเหนือแม่น้ำโขง แล้วจอดดับเครื่องที่บริเวณริมแม่น้ำโขงบ้านท่าจำปา หมู่ 4 ต.ท่าจำปา ใกล้กับท่าทรายของเอกชน มีท่าทีพิรุธต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงออกเรือลาดตระเวนลอยลำสังเกตุการณ์อยู่กลางแม่น้ำโขง ขณะเดียวกันใช้กล้องตรวจการณ์กลางคืน พบเรือทั้งสองลำพายเข้าเทียบฝั่ง มีกลุ่มชายฉกรรจ์ออกจากที่ซ่อน รีบขับรถยนต์สองคันลงเรืออย่างชำนาญ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีรถยนต์ก็อยู่บนเรือกีบเรียบร้อย
จากนั้นคนขับเรือติดเครื่องยนต์เบนหัวเร่งเครื่องออกจากฝั่ง เพื่อข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่บนเรือลาดตระเวนส่งสัญญาณให้จอด ชายคนขับเรือสองคนตกใจ รีบสละเรือโดดลงน้ำว่ายหลบหนีไปคนละทิศละทาง ปล่อยให้เรือบรรทุกรถยนต์ลอยไปตามสายน้ำโดยไม่มีผู้ควบคุม เจ้าหน้าที่จึงลากเรือที่บรรทุกรถยนต์เข้าหาฝั่งเพื่อตรวจสอบ เป็นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว รุ่น prerunner ยกสูง 4 ประตู มีกล้องมองหลังทั้งคู่ คันแรกทะเบียน กพ 8557 นครศรีธรรมราช คันที่สองทะเบียน กร 7764 ภูเก็ต ตรวจเช็คชื่อผู้ครอบครอง พบทะเบียนนครศรีธรรมราชเป็นรถของตำรวจนายหนึ่ง ส่วนอีกคันเป็นของชาวบ้านอยู่ จ.ตรัง จึงประสานไปยังที่อยู่ของบุคคลทั้งสอง ให้นำเอกสารการถือครองรถมาแสดง พร้อมให้ปากคำแก่พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ารถยนต์ข้ามชาติหรือไม่
