ทหาร ฉก.จงอางศึก ร่วมบูรณาการหน่วยงานความมั่นคง ตรวจเข้มแรงงานเถื่อนในพื้นที่ตามแนวชายแดน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จับแรงงานเถื่อน19 รายพร้อมชาวประจวบคีรีขันธ์ 2 รายและรถยนต์ปิกอัพมาแรงงานที่ข้ามมาทางช่อง หุบผึ้ง
วันที่30 มกราคม 2562) พ.อ.พิเชษฐ์ หัสดีผง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 19 ในฐานะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ เปิดเผยว่า ตามนโยบายและข้อสั่งการของ ผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาคที่ 1 และ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ ให้หน่วยเพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนั้น จึงสั่งการให้ พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รองบังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ ร่วมกับ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146 และ จนท.หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เข้มงวดกวดขันในการดูแลเรื่องแรงงานต่างด้าวที่แอบลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งผู้ประกอบการต่างๆ ที่มีหรือซ่อนเร้นแรงงานต่างด้าวเถื่อนทำงานในประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต
ข่าวน่าสนใจ:
จึงทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนถนนทางเข้าช่องทางธรรมชาติช่องหุบผึ้ง จนกระทั่งพบรถกระบะอีซูซุ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน บต7743 จ.ชุมพร ขับผ่านมาจึงส่งสัญญาณขอตรวจค้น จากการตรวจค้นภายในรถพบ นายรณชัย เพ็ญสุข บ้านเลขที่ 107/3 ม.9 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้ขับขี่ และมี นายจเรวัฒน์ สวนน้อย บ้านเลขที่ 49 ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายวิวัฒน์ หุ่นยนต์ บ้านเลขที่ 65/147 ม.4 ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้นั่งมาด้วย นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกระบะท้ายพบบุคคลไม่ทราบสัญชาติ จำนวน 19 คน จึงขอตรวจสอบเอกสารการเดินทางเข้ามายังในราชอาณาจักรไทย ซึ่งกลุ่มบุคคลทั้งหมดไม่มีเอกสารแสดง และให้การรับสารภาพว่าได้ลักลอบหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติด้านทิศเหนือช่องหุบผึ้ง เพื่อจะลักลอบหลบหนีเข้าไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา ผู้นำพาว่า “ร่วมกันกระทำความผิด ผู้ใดเป็นคนต่างด้าวเข้ามาราชอาณาจักร ช่วยซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม” และผู้หลบหนีว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองวาฬ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์ในเรื่องขบวนการแอบลักลอบขนแรงงานเถื่อนเข้ามาในประเทศไทย มีเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะการลักลอบหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ และจะมีการขนแรงงานเข้ามาอีกจำนวนมากไปยังประเทศที่สาม รวมทั้งเรื่องการปลอมแปลงหนังสือเดินทาง หรือการปลอมตราประทับวีซ่า มีขบวนการจัดทำอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้หนังสือเดินทางที่บรรดาแรงงานต่างด้าวที่เคยเข้ามาทำงานในประเทศไทย แล้วไม่กลับมาทำงานที่ประเทศอีก ซึ่งมีขบวนการทำหนังสือเดินทางปลอม ตราประทับปลอม นำขายให้แก่ บุคคลต่างด้าวเถื่อนใช้แทนคนเก่าเดินทางผ่านเข้ามาทำงานในประเทศไทยตบตาเจ้าหน้าที่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: