เพชรบูรณ์-ศปป.4 ร่วมกับ ศปก.พป. ทวงคืนผืนป่าลุ่มน้ำป่าสัก ตรงข้ามภูขี้ไก่ อีกกว่า 3,000 ไร่ หลังพบนายทุนภาคใต้ บุกรุกครอบครอง ปลูกยางทำสวนมะขาม-กาแฟบังหน้า
วันที่ 1 ก.พ.62 เวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วยทหาร ป่าไม้และฝ่ายปกครอง นำโดย พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. และนายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้, นางปิณฑิรา เก่งการพานิชนายอำเภอหล่มเก่า, นายบุญลาภ สุกใส ผอ.สจป.4 สาขาพิษณุโลกจำนวนราว 30 นาย โดย ศปป.4 กอ.รมน. ร่วมกับ ศปก.พป. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ท.เรืองสิทธิ์ มิตรภานนท์ ผอ.ศปป.4 กอ.รมน. และนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป) และตามสั่งการของนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ลงพื้นที่ตรวจสอบนายทุนบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าลุ่มน้ำป่าสัก ในเขตท้องที่หมู่ 1 บ้านวังขอน และหมู่ 2 บ้านห้วยอีจีน ต.ตาดกลอย อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำป่าสักตรงข้ามกับยอดเขาภูขี้ไก่แปลงที่มีการออกโฉนดโดยมิชอบ
พบการบุกรุกครอบครองพื้นที่ป่าของนายทุนกว่า 3000 ไร่ มีการปลูกยางพารา,กาแฟและมะขาม และพื้นที่บางส่วนให้ชาวบ้านปลูกยาสูบบังหน้า นอกจากนี้บางพื้นที่พบมีการตัดโค่นต้นไม้ยืนต้นทิ้งไว้ในพื้นที่ และบางส่วนใช้รถแทรคเตอร์ไถเปิดป่าใหม่ เพื่อขยายการครอบครองพื้นที่ ขณะตรวจสอบพบชาวบ้าน 2 ราย ซึ่งให้ถ้อยคำว่า รับจ้างดูแลพื้นที่บริเวณดังกล่าวให้นายทุนที่มาจากภาคใต้ ซึ่งให้ปลูกยาสูบเลี้ยงชีพเพื่อแลกกับค่าจ้างในการดูแลพื้นที่ให้นายทุน และให้แผ้วถางพื้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทางเจ้าหน้าที่จึงจับค่าพิกัดพื้นที่บุกรุกมาตรวจสอบและคำนวณพื้นที่ที่ถูกบุกรุกครอบครอง ต่อมาทางคณะเจ้าหน้าที่มีความเห็นว่า เป็นการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ จึงร่วมกันตรวจยึดพื้นที่จำนวน 3,353 ไร่ โดยคิดเป็นค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 228,822,870 บาท
จากนั้นทางคณะเจ้าหน้าที่ดังกล่าวได้มอบให้มอบนายสมชาย ฉิมแย้ม เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ รวบรวมข้อมูลจัดทำบันทึกตรวจยึดนำเรื่องราวร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เพื่อให้ดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
