X
ปั่นไฟด้วยน้ำมันปาล์ม

เดินเครื่องปั่นไฟ ช่วยพยุงราคาน้ำมันปาล์ม หลังเกษตรกรผลิตล้นตลาด

ฉะเชิงเทรา – เดินเครื่องปั่นไฟ ด้วยน้ำมันปาล์ม ช่วยพยุงราคาเกษตรกรหลังผลผลิตล้นตลาด ตามมติ ครม.ให้ กฟผ.นำน้ำมันปาล์มดิบจากภาคใต้มาใช้เป็นเชื้อเพลิงร่วมกับก๊าซธรรมชาติผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง จำนวน 1.6 แสนตันนาน 6 เดือน โดยมี รมว.พลังงาน มากดปุ่มสตาร์ทเดินเครื่องด้วยตนเองวันนี้

วันที่ 2 ก.พ.62 เวลา 10.00 น. ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ได้เดินทางมายังที่โรงไฟฟ้าบางปะกง ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อเริ่มต้นกดปุ่มสตาร์ทเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า หน่วยที่ 3 ซึ่งมีกำลังการผลิตขนาด 600 เมกาวัตต์ ที่ใช้พลังงานจากน้ำมันปาล์มดิบร่วมกับก๊าซธรรมชาติ ในอัตราส่วน 50 ต่อ 50 ในการเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานความร้อนหน่วยนี้

กดปุ่มเปิดด้วยตนเอง

ตามมติคณะรัฐมนตรีที่มีนโยบายปรับสมดุลทางการตลาด เมื่อ 20 พ.ย.61 ให้ กฟผ.ปรับปรุงอุปกรณ์เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าภายในโรงผลิตไฟฟ้าบางปะกง หน่วยที่ 3 ให้สามารถใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากน้ำมันปาล์มดิบได้ ในการช่วยระบายผลผลิตของเกษตรกรชาวสวนปาล์มในภาคใต้ที่มีผลผลิตคออกมาล้นตลาด จึงทำให้ราคาตกต่ำ

ปั่นด้วยน้ำมันปาล์ม ช่วยเกษตรกร

โดย ดร.ศิริ กล่าวถึงสถานการณ์ที่ต้องนำน้ำมันปาล์มดิบมาผลิตกระแสไฟฟ้าในครั้งนี้ว่า ผลผลิตน้ำมันปาล์มที่เกษตรกรสามารถผลิตได้เพิ่มมากขึ้นถึง 2.5 ล้านตันต่อปี จากเดิมมีผลผลิตประมาณ 2 ล้านตันต่อปี ใช้ในการบริโภคในประเทศ 9 แสนตัน ใช้ผลิตไบโอดีเซล บี7 จำนวน 1.2 ล้านตัน ซึ่งอยู่ในสภาวะสมดุลพอดี แต่เมื่อปีที่แล้วกลับมีผลผลิตออกมามากถึง 2.5 ล้านตันจึงมีส่วนเกินอยู่ในตลาด

รมว.มาเอง

ปกติเราเคยทำการส่งออกอยู่ประมาณ 3 แสนตันต่อปี แต่ตลาดต่างประเทศได้ทรุดตัวลงเนื่องจาก EU เลิกซื้อวัตถุดิบไปใช้ทำอาหาร จึงเกิดการล้นตลาดและส่งผลกระทบต่อราคารับซื้อจากเกษตรกร รัฐบาลจึงมีมาตรการอย่างเร่งด่วนให้นำน้ำมันปาล์มดิบมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งเดิมเคยนำไปใช้ผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้ากระบี่อยู่แล้ว

มาปั่นไฟ

แต่เนื่องจากโรงไฟฟ้ากระบี่เป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันและมีขนาดเล็กใช้น้ำมันปาล์มได้น้อย จึงทำให้ค่าไฟฟ้าที่ผลิตออกมาได้มีราคาแพง ทาง กฟผ.จึงได้เสนอให้นำเอามาใช้ที่โรงไฟฟ้าบางปะกง เนื่องจากมีประสิทธิภาพดีกว่า เมื่อทำการผลิตแล้วค่าไฟฟ้าต่อหน่วยไม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากใช้ร่วมกันกับก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมีราคาที่ถูกกว่า และยังเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ผลิตไฟฟ้าป้อนเข้าสู่กรุงเทพฯ ที่ใช้ปริมาณไฟฟ้ามากจึงผลิตได้เต็มที่

ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์

และทำให้สามารถใช้น้ำมันปาล์มดิบได้มากถึง 3 หมื่นตันต่อเดือน โดยจะใช้เวลาเพียงประมาณไม่เกิน 6 เดือน (ก.พ.-ก.ค.) ก็จะสามารถใช้น้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินจำนวน 1.6 แสนตันได้หมดแล้วทำให้เกิดความสมดุลของน้ำมันปาล์มได้อย่างรวดเร็ว และต่อไปก็จะเป็นมาตรการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี20 ประมาณ 5-6 แสนตัน จะสามารถดูดซับน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินได้ทั้งหมด

ใช้น้ำมันปาล์มดิบ

ซึ่งมาตรการใช้ไบโอดีเซล บี20 จะเป็นส่วนที่เผื่อไว้สำหรับดูดซับน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินที่มีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นอีก โดยตั้งเป้าให้น้ำมันบี 20 เผื่อไว้สำหรับดูดซับน้ำมันปาล์มส่วนเกินที่ 4-5 แสนตัน โดยรัฐบาลได้ใช้งบประมาณกลางที่เคยนำไปชดเชยการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบประมาณ 6 แสนตันที่ 1.75 บาทต่อกิโลกรัมวงเงินประมาณ 525 ล้านบาท นำมาชดเชยในส่วนของค่ากระแสไฟฟ้าได้

เปิดเครื่องปั่นไฟ

ขณะที่ กฟผ.ได้มีการตัดในส่วนผลกำไรของ กฟผ.เองจำนวน 850 ล้านบาท มาเป็นส่วนของการบริการสาธารณะโดยที่ไม่ต้องส่งเงินเข้าคลัง และไม่กระทบต่อพนักงานหรือรายได้ของ กฟผ.ซึ่งเป็นมาตรการร่วมกันของรัฐบาลที่จะไม่มีผลกระทบต่อค่ากระแสไฟฟ้าต่อหน่วยของประชาชนผู้ใช้ และเป็นมาตรการเฉพาะสำหรับการระบายน้ำมันปาล์ม 1.6 แสนตันเท่านั้น

ซึ่งหากขายบี 20 ได้เต็ม 15 ล้านลิตรต่อปีจะสามารถใช้น้ำมันปาล์มดิบได้ถึง 6 แสนตัน ซึ่งเป็นมาตรการระยะยาวสามารถสร้างสมดุลได้ต่อไป ดร.ศิริ กล่าว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน