สงขลา- สะเดา ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สะเดา รวบผู้ต้องหาตามหมายจับ พร้อมเพื่อนร่วมแก๊งอีก 2 คน ขยายผล พบซุกซ่อนยาเสพติดกัญชาอัดแท่ง น้ำหนักเกือบตัน ในขนำกลางสวนยางพารา เตรียมส่งออกให้กับลูกค้าในประเทศเพื่อนบ้านเมื่อวานนี้ ( 6 ก.พ.62 ) พ.ต.ท.วีระศักดิ์ เดชประมวลพล รอง ผกก.สส.สภ.สะเดา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประเสริฐ บุญศาสตร์ รอง สว.สส.สภ.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เข้าทำการจับกุมตัว นาย ปิติภัทร (แบงค์) ยะรัง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 ซอย 4 ม.3 ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา หลังจากหลบหนีหมายจับคดียาเสพติดรวม 2 คดี และสืบทราบว่าได้หวนกลับมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวขณะไปถึงพบ นาย ปิติภัทรฯ และเพื่อนชื่อนาย นัฐวัฒิ ซาเหลม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 ม.2 ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา นั่งอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน จึงได้ทำการควบคุมตัว และทำการตรวจค้นตัว ซึ่งพบกัญชาแห้งในกระเป๋ากางเกง นาย นัฐวัฒิฯ จำนวนหนึ่งถุง จากการสอบถามนายนัฐวัติฯ ซึ่งมีอาการตกใจบอกว่า ยังมีกัญชาอัดแท่งซุกซ่อนอยู่ที่ขนำกลางสวนยางพารา บ้านปริก ม.2 ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา อีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน นำทางไปที่ขนำพบมีคนเฝ้าขนำอยู่ 1 คน ชื่อนาย วิราวุธ ทองเกื้อ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/2 ม.3 ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง นั่งเฝ้ากัญชาอัดแท่งที่วางอยู่เต็มพื้นขนำจำนวน 25 กระสอบ น้ำหนักรวม 947 กิโลกรัม จึงได้ควบคุมตัว 3 ผู้ต้องหา พร้อมยึดกัญชาอัดแท่งของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา เพื่อทำการสอบสวนขยายผล ดำเนินคดี
เบื้องต้นนาย ปิติภัทรฯ ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับคดียาเสพติดจริง ส่วนกัญชาอัดแท่งทั้งหมดได้สั่งจาก นายบัง ไม่ทราบนามสกุล อยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จำนวน 200 กิโลกรัม แต่ได้รับทั้งหมด 947 กก.ในราคากิโลกรัมละ 6,000 บาท และได้แบ่งขายให้ชาวมาเลเซีย ไปเมื่อคืนที่ผ่านมา จำนวน 80 กก. เพื่อนำกลับไปขายในบ้านเขา ส่วนเพื่อน 2 คน ไม่รู้เรื่องเพียง แต่ชวนมาช่วยเฝ้ากัญชาอัดแท่งเท่านั้น ในราคา 3 พันบาทเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ ปปส.จังหวัดสงขลา เข้าไปร่วมสอบสวนอีกครั้ง เนื่องจากผู้ต้องหาให้การวกวน ทั้งนี้เพื่อจะขยายผลถึงนายทุนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง รวมถึงแก๊งที่ลักลอบนำกัญชาไปขายในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งกัญชาอัดแท่งหากไปถึงมือลูกค้าในประเทศมาเลเซีย จะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 2 -3 หมื่นบาท
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: