หนุ่มสวนยาง เลี้ยงนกกรงหัวจุกผสมข้ามสายพันธุ์ทำเงินนับหมื่นบาทต่อเดือน ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้ทำการเพาะพันธุ์นกกรงหัวจุก เพื่อการอนุรักษ์และสามารถขายเป็นรายได้เสริมมานานเกือบ 5 ปี
หนุ่มสวนยาง เลี้ยงนกกรงหัวจุกผสมข้ามสายพันธุ์ทำเงินนับหมื่นบาทต่อเดือน : นายวิวัฒน์ ปราบเสร็จ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/4 หมู่ที่ 8 ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง ซึ่งจบการศึกษาแค่ชั้น ป.6 แต่ด้วยความที่มีใจรักนกปรอทหัวโขนหรือนกกรงหัวจุกมาตั้งแต่เล็ก จึงได้สะสมประสบการณ์จนมีความรู้แตกฉานเกี่ยวกับสายพันธุ์ของนกกรงหัวจุก และไปขออนุญาตกับสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 จ.นครศรีธรรมราช
เพื่อเพาะพันธุ์สัตว์สงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2557 จากนั้น จึงทำการเพาะขยายพันธุ์อย่างจริงจัง โดยมีการผสมข้ามสายพันธุ์นกกรงหัวจุก เพื่อให้สีสันแปลกตาและลักษณะโดดเด่น มีเสียงร้องไพเราะ โดยมีทั้งสีเหลืองหน้านวล บอร์เนียว หน้านวลคอแดง ปรอทก้นเหลือง ปรอทก้นแดง ปรอทเผือก และอื่น ๆ กว่า 100 ตัว
ส่วนหนึ่งได้ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติเพื่อเพิ่มประชากรนกไม่ให้สูญพันธุ์ ทุกเดือน และได้เปิดเป็นฟาร์มเพาะนกกรงหัวจุกรายแรกในอำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง ต่อมาเมื่อมีลูกนกที่ได้จากการผสมข้ามสายพันธุ์มากขึ้น จึงต้องทำกรงขนาดใหญ่บนเนื้อที่ 1 ไร่ เพื่อจำลองให้เป็นป่าธรรมชาติและปล่อยให้นกกรงหัวจุกบินได้อย่างอิสระ
ส่วนพ่อแม่พันธุ์ได้แยกไว้ในกรงขนาดย่อม หลังฟักไข่จนได้ลูกนกแล้ว จึงปล่อยให้ออกไปบินได้ ซึ่งแต่ละเดือนจะได้ลูกนกกรงหัวจุกตั้งแต่ 25-30 ตัว เลี้ยงไว้ประมาณ 30 วัน ก็สามารถขายได้ในราคาตั้งแต่ตัวละ 3,500-กว่า 10,000 บาท ขึ้นอยู่กับสวยงาม
โดยขายผ่านทางเฟสบุ๊คชื่อ “วัฒน์ ลูกผสม” มานานเกือบ 5 ปีแล้ว ทำเงินรายได้กว่า 20,000 บาทต่อเดือน ซึ่งนายวิวัฒน์ ปราบเสร็จ เจ้าของฟาร์มนกกรงหัวจุกรายแรกในอำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง กล่าวว่า ส่วนใหญ่ตนจะเพาะพันธุ์นกปรอทลูกผสม ซึ่งตอนนี้มีอยู่กว่า 100 ตัว และมีห่วงติดขาจากกรมป่าไม้อยู่กว่า 80 ตัว ซึ่งได้ขออนุญาตอย่างถูกต้องตามกฏหมามานานแล้ว
โดยแต่ละเดือนจะสามารถเพาะลูกนกได้สูงสุดถึง 30 ตัว ราคาขายอยู่ที่ตัวละ 3,500 บาทขึ้นไป ซึ่งลูกนกอายุ 1 เดือนก็สามารถขายได้แล้ว และส่วนใหญ่เป็นลูกค้าขาประจำที่สั่งซื้อทางเฟสบุ๊ก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: