นครพนม – วันที่ 15 ก.พ.62 เวลา 11.00 น. นายณรงค์พร เพชรอุเทน ทนายความประจำสำนักงานทนายความชาติยุทธ แสนคำ นำนายอุทัย คึมยะราช อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 143 หมู่ 2 บ้านม่วง ต.โคกสูง อ.ปลาปาก จ.นครพนม พร้อมกับญาติเดินทางไปยังศูนย์ดำรงธรรมฯ ชั้นล่าง ศาลากลางจังหวัดนครพนม(หลังเก่า) เพื่อยื่นหนังสือพร้อมหลักฐานภาพถ่ายประกอบ และแนบสำเนาคำฟ้องของศาลเยาวชนและครอบครัว คดีแพ่งหมายเลขดำที่ 14/2562 เข้าร้องเรียนต่อนายไชยวุฒิ วัชเรนทร์สุนทร รักษาการ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมฯ โดยมีนายนภาพล วิริยะ เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน/ร้องทุกข์ เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว
เบื้องต้นนายอุทัยผู้เสียหายขอความเป็นธรรม ในกรณีมีผู้ใหญ่บ้าน(ผญบ.)คนหนึ่งได้หลอกนางใจ(นามสมมุติ) อายุ 54 ปี เมียของตนไปกระทำมิดีมิร้ายในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในเขต อ.ปลาปาก ซึ่งมีพยานคือนางอุทัย คึมยะราช(ชื่อ-นามสกุล เหมือนกัน) อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 88 หมู่ 2 บ้านม่วง ต.โคกสูง ซึ่งเป็นพี่สาวของนางใจ ผู้พบเห็นทั้งสองอยู่ในรีสอร์ท
โดยนางอุทัยพยานเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนกับคนรักได้พากันมาเปิดรีสอร์ทชื่อต้นกุง พบรถจักรยานยนต์มีลักษณะเหมือนกับรถน้องสาวของตนที่ชื่อนางไพวัลย์ คึมยะราช อายุ 53 ปี จอดคู่กับรถยนต์ปิกอัพคันหนึ่ง จำได้ว่ารถคันนี้เป็นของผู้ใหญ่บ้าน จอดอยู่ที่ห้องพักหมายเลข 5 ด้วยความสงสัยจึงโทรศัพท์ถามนางไพวัลย์ว่าอยู่ไหน ก็ได้รับคำตอบว่าตอนนี้ทำธุระอยู่ในตัวจังหวัดนครพนม ตนจึงย้อนถามกลับไป แล้วรถ จยย.มาอยู่ในรีสอร์ทได้อย่างไร นางไพวัลย์ตอบก็นางใจพี่สาวมาขอยืมอ้างว่าจะไปหาหมอที่ ร.พ.ปลาปาก ดังนั้นตนจึงให้นางไพวัลย์รีบกลับมาพบที่รีสอร์ท เพื่อเป็นพยานร่วมกันว่า ผู้ที่อยู่ในห้องหมายเลข 5 นั้น เป็นนางใจกับผู้ใหญ่บ้านคนนั้นจริงหรือไม่
ประมาณหนึ่งชั่วโมง ประตูห้องหมายเลข 5 ก็เปิดออก มีผู้ใหญ่บ้านเดินเคียงข้างมากับนางใจตามที่คาดไว้ ทั้งสองเห็นถึงกับหน้าซีดถอดสี นางใจจึงบอกกับผู้ใหญ่บ้านว่า จะทำอย่างไรญาติพี่น้องรู้เรื่องหมดแล้ว ผญบ.ตอบจะจัดการเองทุกอย่าง โดยทั้งหมดพากันไปตกลงค่าสินไหมที่ศาลาพักร้อนข้าง สภ.ปลาปาก ซึ่ง ผญบ.รับปากจะจ่ายค่าเสียหายเป็นเงิน 120,000 บาท นัดจ่ายกันวันที่ 2 ก.พ.นี้ เพียงขอร้องว่าอย่านำเรื่องทั้งหมดไปแพร่งพรายให้ใครรู้ เพราะต่างมีครอบครัวกันทั้งสองฝ่าย ถึงกำหนดวันนัด ปรากฏว่า ผญบ.พลิกลิ้น ไม่ยอมจ่ายท้าให้ไปฟ้องร้องเอา นางอุทัยเผยต่อว่าในขณะนั้นนายอุทัยน้องเขยยังไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงปรึกษากับนางไพวัลย์ว่าถึงเวลาควรจะเปิดเผยเรื่องนี้ ให้นายอุทัยรู้ดีกว่า
รุ่งเช้าวันที่ 3 ก.พ. ขณะที่นายอุทัยเตรียมตัวจะออกไปขับรถไถนารับจ้าง นางใจผู้เป็นเมียวิ่งมากอด แล้วทรุดตัวลงกราบแทบเท้าสามี ร่ำไห้บอกว่าตัวเองผิดไปแล้ว นายอุทัยเกิดความงุนงง ถามเมียว่าร้องไห้เป็นอะไร นางใจจึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้สามีฟัง นายอุทัยถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูก แต่พยายามข่มใจพากันไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ปลาปาก พร้อมกับมีหนังสือถึงนายอำเภอปลาปาก ให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับ ผญบ.คนนี้ ลงวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาบางส่วนว่า “วันที่ 25 ม.ค.62 ผญบ.ฯได้ชักชวนภรรยาของข้าพเจ้าไปร่วมหลับนอนที่ห้องพักต้นกุงรีสอร์ท ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม มีพฤติการณ์ประพฤติตนผิดศีลธรรมอันดี และไม่เหมาะสมในฐานะเป็นผู้นำท้องถิ่น ฯ จึงร้องขอความเป็นธรรมฯ” แต่เหมือนเรื่องจะไม่คืบหน้า จึงพากันมาร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมดังกล่าว
นายไชยวุฒิ ฯ รักษาการ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม กล่าวว่าเบื้องต้นผู้เสียหายเคยร้องเรียนไปที่อำเภอปลาปากแล้ว ซึ่งหลังรับเรื่องก็จะนำเรื่องนี้เสนอทางจังหวัดให้ทราบอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบผู้ถูกกล่าวหาต่อไป
