เลย ป.ป.ช. วางแผนล่อซื้อจับรองนายก อบต. คาตีนภูทอก เรียกเก็บเงินจากผู้ประกอบการรถโดยสารท่องเที่ยวขึ้นภูทอก พร้อมเงินล่อซื้อ 24,000 บาท เอกสารถ่ายธรบัตร
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 15 ก.พ.62 ว่าที่ ร้อยตรีสมบูรณ์หัสดม ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช.เลย พร้อมด้วย สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการเดินรถท่องเที่ยวภูทอก ว่า นายสมบูรณ์ สายสังข์ รองนายก อบต.เชียงคาน เรียกเก็บเงินโดยมิชอบจากผู้ประกอบการเดินรถขึ้นภูทอก รายละ 12,000 บาท และยังมีอีกหลายราย จึงประสานไปยัง ร.ต.อ.วิทยา วิไลลักษณ์รอง สว.(สอบสวน) สภ.เชียงคาน วางแผนล่อซื้อจับกุมตัวนายสมบูรณ์ สายสังข์ รองนายก อบต.เชียงคาน ที่บริเวณทางขึ้นภูทอก
จนกระทั่งนายสมบูรณ์ รองนายก อบต.เชียงคาน ได้มาตามนัดหมาย พบผู้ประกอบการจำนวน 2 ราย ให้มารับเงินในเช้าวันนี้ เวลา 06.00 น. ขณะรับเงินจากผู้ประกอบการ ได้ส่งสัญญาณให้ จนท.ป.ป.ช.ทราบ จึงได้แสดงขอตรวจค้นและจับกุมตัว พบหลักฐานเป็นธนบัตรจำนวน 24,000 บาท ในกระเป๋าสะพาย ที่มีการถ่ายเอกสารไว้ ในตัวรองนายก อบต.เชียงคาน จึงได้นำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เชียงคาน
ว่าที่ ร้อยตรีสมบูรณ์ หัสดม ผอ.สำนักงาน จ.เลย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีผู้ประกอบการมาร้องเรียนต่อ ปปช. ว่ารองนายก อบต.เชียงคาน เรียกเก็บเงินจากผู้ประกอบการรายละ 12,000 บาท พร้อมหลักฐานเป็นแผ่นซีดี ถ้าไม่ให้ภายในวันนี้ จะไม่อนุญาตให้นำรถมาวิ่งรับนักท่องเที่ยวขึ้นภูทอกและจะปิดเส้นทางในวันนี้เป็นวันสุดท้าย เมื่อได้รับการร้องเรียนแล้ว ทาง ป.ป.ช.เลย ได้มีการประสานไปยังสำนักงานข่าวกรองของสำนักงาน ป.ป.ช. และ สภ.เชียงคาน ร่วมกันวางแผนจับกุม และนัดหมายให้รองนายก อบต.เชียงคาน มารับเงินบริเวณทางขึ้นภูทอก
ว่าที่ ร้อยตรีสมบูรณ์ หัสดม กล่าวต่ออีกว่า เมื่อมีการจับกุมตัวก็สอบปากคำเบื้องต้น โดยรองนายก อบต.ให้การปฏิเสธ จึงได้ลงบันทึกการจับกุม นำตัวพร้อมหลักฐานส่ง พงส.สภ.เชียงคาน ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย จากนั้นทาง พงส. จะมีการสอบปากคำและส่งสำนวนมายัง ป.ป.ช.เลย หากพบว่ามีผู้บุคคลอื่นร่วมก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องหรือมีส่วนร่วม
จากการสอบถามผู้ประกอบการ ทราบว่า พื้นที่ภูทอก เป็นป่าสงวนแห่งชาติเขาแก้ว ทางป่าไม่โอนภารกิจมาให้ทาง อบต.เชียงคานดูแล เพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บริหารจัดการ จากนั้นมีผู้บริหาร อบต.มาประชุมหารือเพื่อเรียกร้องรับเงินจากผู้ประกอบการเดินรถท่องเที่ยวภูทอก โดยปีนี้เก็บเป็นปีแรกรายละ 12,000 บาท จำนวน 23 คัน จนทางผู้ประกอบเดินรถท่องเที่ยวภูทอก ได้ทำการร้องเรียนและนำแผ่นซีดีวาระการประชุมมอบมอบให้ ส่วนผู้ถูกกล่าวหาจะให้การปฏิเสธ ก็เป็นเรื่องของผู้ถูกล่าวหา แต่ทาง ป.ป.ช.เลย ได้แจ้งข้อกล่าว ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินสำหรับตนเองโดยมิชอบ
