เชียงราย-สอบสวนผู้กระทำผิดมาขึ้นศาล โทษหนักคุก 1-10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท ลั่น ไม่มีการผ่อนผัน หลังสถานการณ์หมอกควันเริ่มวิกฤติ ขึ้นป้ายพื้นที่ไฟไหม้ห้ามเข้าโดยเด็ดขาด เตรียมปลูกป่าทดแทน ขณะสถานการณ์จังหวัดรอบข้างยังอ่วม จุดฮอตสปอต แดงพรึ่ดไม่เว้นประเทศเพื่อนบ้าน
เวลา 13.30 น. วันนี้ (27 กพ.62) ณ ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานประชุมหารือ รับฟังรายงานแผนการ บริหารจัดการสถานการณ์ กรณีเกิดจุดความร้อน และเกิดไฟไหม้ป่า ในพื้นที่บ้านสันติพัฒนา ม.19 ต.ปอ อ.เวียงแก่น เมื่อเวลา 02.00น. วันที่ 25 ก.พ.62 ที่ผ่านมา โดยมี นายสุจิต สุชาติ นายอำเภอเวียงแก่น ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำท้องที่ หัวหน้าส่วนราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันแสวงหาแนวทางในการบริหารจัดการความเสี่ยงจากกรณีสถานการณ์การเกิดไฟป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ที่เกิดขึ้นในวันและเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่กำหนดให้ นายอำเภอ พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ เพื่อมาชี้แจงสาเหตุ การปฏิบัติ และแผนการแก้ไขปัญหา เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก
ข่าวน่าสนใจ:
- มุกดาหาร-เชิญชวนร่วมกิจกรรมเดินวิ่ง "แคแสดรัน ครั้งที่ 2" ณ สะพานมิตรภาพไทย- ลาวแห่งที่ 2
- จนมุมเพราะไก่ชน!! ตำรวจบางละมุงวางแผนเหนือเมฆ หลอกแก๊งค์ค้ายานรกมาซื้อไก่ชน ก่อนตามรวบยกแก๊งค์ ยึดยาบ้าแสนเม็ด - ไอซ์ 1 กก. พร้อมรถ 2 คัน…
- จัดกิจกรรมวิ่งการกุศล UNITHAI-CUEL Run for Charity 2025 ครั้งที่ 3 วิ่งด้วยใจ ในสวนสวย ช่วยผู้ป่วยมะเร็ง
- สูงวัยตรัง ปลื้ม เตรียมตัวรับเงินหมื่น ฝันใช้ยามแก่-ต่อยอดอาชีพบั้นปลาย
นายสุจิต สุชาติ นายอำเภอเวียงแก่น ชี้แจงว่า ทางอำเภอไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้กำชับให้ทุกภาคส่วน ได้ร่วมมือดำเนินการตามมาตรการของทางจังหวัดอย่างเต็มที่ แม้การเกิดไฟอาจมาจากพื้นที่ข้างเคียงแต่ก็ได้หาทางป้องกัน และเผชิญเหตุอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะได้กำชับให้ทุกฝ่ายเฝ้าระวังอย่างเต็มที่
ทางด้าน นายธรรมสาร เบ็ญจฆรณี ผู้ใหญ่บ้าน ม.19 ต.ปอ อ.เวียงแก่น พื้นที่ที่เกิดเหตุ ชี้แจงว่า เมื่อตนได้รับแจ้งการเกิดเหตุ ได้ดำเนินการสอบถามผู้ที่อยู่ใกล้เคียงในบริเวณดังกล่าว แต่ยังไม่ทราบตัวผู้ก่อเหตุ ขณะนี้ได้จัดชุดเฝ้าระวังมิให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก
ส่วน นายประเวศ ปงรังษี ปลัด อบต.ปอ ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ทาง อปท.ทุกพื้นที่ของอำเภอเวียงแก่น มีการประชุมหารือกันและต่างมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ในการป้องกันมิให้เกิดไฟป่า โดยร่วมกันสนับสนุนงบประมาณในการจัดทำแนวกันไฟ จัดหาวัสดุอุปกรณ์ในการเผชิญเหตุ แสตนบายรถดับเพลิงเคลื่อนที่เร็วเข้าสู่พื้นที่ที่เกิดไฟไหม้ พร้อมจัดชุดเวรยามอาสาสมัครเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเฝ้าระวังการเกิดไฟในบ่อขยะ อีกด้วย
นายอำนาจ เจิมแหล่ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว น่าจะมีหลายสาเหตุ แต่เพื่อความไม่ประมาทจะต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย ป้องกันมิให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก
ภายหลังรับฟังสถานการณ์ ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร ได้สั่งการให้ นายอำเภอเวียงแก่น นำผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนที่ สภ.เวียนแก่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการสืบสวนสอบสวน เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย และประสานเร่งส่งฟ้องร้องต่อศาล ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง ตามความผิดตามมาตรา 31 ตามมาตรา14 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 บทลงโทษจำคุก 1-10 ปี และปรับ 20,000-200,000 บาท โดยขอไม่รอลงอาญา และจะดำเนินคดียังเฉียบขาดโดยไม่ละเว้นอย่างเด็ดขาด ในส่วนพื้นที่ดังกล่าว ให้นำปักป้ายประกาศห้ามมิให้บุคคลภายนอกเข้าพื้นที่เด็ดขาด และปลูกป่าฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย จำนวนประมาณ 2 ไร่ เศษ อย่างเร่งด่วน ก่อนกำชับให้ท้องถิ่น ร่วมกันสร้างการรับรู้กับชาวบ้านในพื้นที่ และจัดชุดลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับการประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงประชาชนในพื้นที่เสี่ยงทุกจุด ป้องกันมิให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก
มีรายงานเพิ่มเติมเข้ามาว่า เวลาประมาณ08.00น.ได้เกิดเหตุไฟไหม้ป่าบริเวณบ้านเวียงหมอก หมู่ที่10 ตำบลห้วยซ้อ อำเภอเชียงของ ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมกับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สามารถทำการดับไฟได้สำเร็จ ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากคนลักลอบเผา ตอนนี้ทางพื้นที่ ก็จะได้มีการแจ้งความกับเจ้าห้าที่ตำรวจ เพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เช่นเดียวกัน
ส่วนสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย วันนี้ ณ จุดตรวจวัดคุณภาพอากาศ อ.แม่สายค่า PM 2.5 สูงสุด อยู่ที่ 58 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศยังอยู่ในระดับ “ปานกลาง” ดีขึ้นกว่าเมื่อวานนี้ ส่วนสถานการณ์ภาพรวมหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ ในพื้นที่ จ.ลำปาง จ.พะเยา จ.น่าน จ.ลำพูน จ.เชียงใหม่ และ จ.แพร่ พบว่ามีปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 เกินค่ามาตรฐานทุกๆ จังหวัด และยังเกิดจุดฮอตสปอต กระจายในจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งในประเทศ เมียนมา และประเทศลาว เป็นจำนวนมาก จึงขอความร่วมมือเน้นย้ำกำนันผู้ใหญ่บ้านทุกชุมชน ประกาศขอความร่วมมืองดเผาทุกพื้นที่ แม้กระทั่งการเผาตามบ้านเรือนของประชาชนทั่วไป เนื่องจากส่งผลต่อการสะสมฝุ่นควันในบรรยากาศซึ่งจะทำให้คุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐาน สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 (เชียงใหม่) เตือนประชาชนที่ต้อดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ให้เฝ้าระวัง ดูแลสุขภาพตนเองให้ดี แต่ประชาชนทั่วไปยังสามารถท่องเที่ยว และออกกำลังกายกลางแจ้งได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: