กรมบัญชีกลางรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ โดยปรับเพิ่ม ช.ค.บ. รวมกับเบี้ยหวัดบำนาญเป็นเดือนละ 10,000 บาท ขณะนี้ได้รับการพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะดำเนินการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อมีผลบังคับใช้ต่อไป
นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้ดำเนินการแก้ไขร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ โดยปรับปรุงกฎหมาย ให้เพิ่มเงินให้กับผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ ที่ได้รับหรือมีสิทธิได้รับเบี้ยหวัดบำนาญรวมกันทุกประเภทและรวม ช.ค.บ. แล้ว ต่ำกว่าเดือนละ 10,000 บาท ให้ปรับเป็นได้รับ ช.ค.บ. เพิ่มขึ้น เมื่อรวมกับเบี้ยหวัดบำนาญแล้วจะได้รับเงิน เดือนละ 10,000 บาท ซึ่งขณะนี้ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณา ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว โดยจะดำเนินการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อบังคับใช้ต่อไป
สำหรับร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพ ที่ปรับปรุงแก้ไขการขยายเพดานของวงเงินบำเหน็จดำรงชีพให้แก่ผู้รับบำนาญซึ่งมีอายุตั้งแต่ 70 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป จากเดิมที่ให้ขอรับได้ในอัตรา 15 เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 400,000 บาท นั้น ปรับเป็นขอรับได้ในอัตรา 15 เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งหากผู้รับบำนาญเคยขอรับบำเหน็จดำรงชีพไปแล้วบางส่วน ให้ผู้รับบำนาญที่มีสิทธิขอรับได้ไม่เกินจำนวนเงินที่ยังไม่ครบตามสิทธิ แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งขณะนี้ร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา และกรมบัญชีกลางจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวในตอนท้ายว่า การแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าว เป็นการช่วยเหลือผู้รับบำนาญให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้เตรียมความพร้อมเกี่ยวกับระบบการจ่ายเงินไว้รองรับการขอรับบำเหน็จดำรงชีพตามวงเงินที่กำหนดขึ้นใหม่ เพื่อให้ผู้รับบำนาญได้รับความสะดวกมากขึ้นด้วย
