รวบนายจาง ชิง โป้ ชาวจีน สวมลอยเป็นนายธวัชชัย เลายี่ปา ทำบัตรประชาชน แล้วเปิดบริษัทในไทยหลายแห่ง ก่อนจะลวงคนสัญชาติจีน ร่วมลงทุน
เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 3 มีนาคม 2562 ที่สำนักตรวจคนเข้าเมือง 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท. นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายจาง ชิง โป้ อายุ 46 ปี หนุ่มชาวจีนที่สวมบัตรประชาชนคนไทย โดยใช้ตามบัตรชื่อ นายธวัชชัย เลายี่ปา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเทิง ที่ จ.7 / 2562 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 โดยนายะวัชชัย หรือ นายจาง ชิง โป้ ได้พยายามสร้างภาพลักษณ์ว่าตนเองเป็นคนไทยที่ประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย และหลอกลวงให้ชาวจีนให้เข้ามาร่วมลงทุน ซึ่งมีผู้เสียเป็นชาวจีนจำนวนหลายคนที่ถูกหลอกให้มาร่วมลงทุนนอกจากนี้นายจาง ชิง โป้ ยังได้เปิดบริษัทประกอบกิจนำเที่ยว ภายในชื่อนายธวัชชัย เลายี่ปา ซึ่งเป็นชื่อตามบัตรประชาชนที่นายจาง ชิง โป้ ได้มาขอจดทะเบียนตั้งบริษัทนำเที่ยวพร้อมจัดทำเอกสารต่าง ๆ นำข่าวสารของตัวเองไปลงประชาสัมพันธ์ในเว็บไซต์ของจีนในชื่อ นายจาง ชี หนี เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า นายธวัชชัย เป็นบุคคลสัญชาติและเชื้อชาติจีนชื่อจริงชื่อนายจาง ชิง โป้ ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 และได้ทำการทุจริตสวมบัตรประชาชนนายธวัชชัย เลายี่ปา เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2558 ที่ว่าการอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดเทิง โดยออกหมายจับบุคคลที่ใช้ชื่อ นายธวัชชัย เลายี่ปา หมายเลขบัตรประชาชน 2-5807-00001-96-6
ต่อมาเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมาในขณะเจ้าหน้าตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และตำรวจท่องเที่ยว พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ารักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่ภายในอาคารผู้โดยสารขอเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ได้พบเห็นนายธวัชชัย หรือนายจาง ชิง โป้ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเทิง เดินทางเข้ามาในประเทศไทย และกำลังเข้าด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ประจำอยู่ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการจับกุมตัวนายธวัชชัย หรือ นายจาง ชิง โป้ เอาไว้ได้พร้อมหลักฐานบัตรประชาชนที่ระบุชื่อนายธวัชชัย เลายี่ปา และบัตรประชาชนของประเทศจีนที่ระบุชื่อบุคคลในบัตรนายจาง ชิง โป้ แต่เป็นรูปถ่ายของคนเดียวกัน จึงคุมตัวมาทำการสอบสวน
จากการสอบสวนนายจาง ชิง โป้ ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นชาวงเหอหนาน ประเทศจีน และได้ทำการทุจริตสวมบัตรประชาชนของนายธวัชชัย เลายี่ปา จริงภายหลังได้บัตรประชาชนไทยแล้ว ได้นำบัตรประชาชนไทยที่ได้มา ไปทำการจดทะเบียนบริษัทหลายบริษัท และทำธุรกรรมต่าง ๆ ในชื่อของนายธวัชชัย มาโดยตลอด และชักชวนคนจีนเข้ามาร่วมลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เช่น คอนโดมิเนียม ที่ดินในพื้นที่อุตสาหกรรม และที่ดินในแหล่งท่องเที่ยว โดยมีเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาท และยังดำเนินการในรูปแบบสามคมที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ไทยจีน เพื่อสร้างความเชื่อถือในธุรกิจ
จากพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้ นับว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงอย่างยิ่ง มีการใช้บัตรประชาชนที่ได้จากการสวมบัตรประชาชนไทย จดทะเบียนบริษัทกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ขอทำใบอนุญาตขับขี่หนังสือเดินทาง เป็นการกระทำที่ไม่เคารพต่อกฎหมายไทย จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า ทำหรือใช้ หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือกระทำการเพื่อให้ตนเอง หรือผู้อื่นมีชื่อหรือมารายการอย่างใดในทะเบียนบ้าน หรือเอกสารทะเบียนราษฎร์อื่นโดยมิชอบ ยื่นคำขอมีบัตรโดยไม่มีสัญชาติไทยด้วยการแจ้งข้อความหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการขอมีบัตร แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำผิดตาม มาตรา 265 มาตรา 266 หรือ มาตรา 267 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งตัวไปดำเนินคดีที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เพื่อทำการสอบสวนขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการต่อไป
