โฆษกพรรคอนาคตใหม่ โต้! จากกรณีที่สำนักข่าวชื่อดัง นำเสนอข่าว “ธนาธร” ถือหุ้นบริษัที่เคยหลกลวงประชาชน และตั้งบริษัทค้าไม้เถื่อน ยืนยันไม่เป็นความจริง! ตั้งข้อสังเกตุทำไมข่าวช่วงนี้ถึงมีการโจมตีพรรคมากกว่าพรรคอื่น
น.ส.พรรณิการ์ วานิช ชี้แจงข่าวที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกกล่าวหาว่า พัวพันกับธุรกิจโรงเลื่อยไม้เถื่อน ทำลายธรรมชาติ และการมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีทุจริตบริษัท ปิคนิคแก๊ส(PICNI) ตามที่มีสื่อบางสำนักเปิดประเด็นไว้
โดยทาง น.ส.พรรณิการ์ ชี้แจงข้อเท็จจริง นายธนาธร เคยถือหุ้นบริษัทดังกล่าวจริง แต่เป็นคนละช่วงเวลากับตอนที่บริษัทดังกล่าวซึ่งหลอกลวงประชาชน โดยช่วงที่มีการหลอกลงประชาชนเป็นคดีช่วง ปี 2550 และหลังจากนั้นมีการฟื้นฟูกิจการ โดยผู้ใหญ๋ได้มีการขอร้องให้ นายธนาธร เข้าไปถือหุ้นเพื่อฟื้นฟูกิจการ หากมองตามช่วงเวลาแล้ว พรรคจึงมองว่า เป็นข่าวปลอมที่จงใจสร้างความสับสนให้ประชาชน
ส่วนกรณีที่สำนักข่าวแห่งหนึ่ง นำเสนอข่าวเกี่ยวกับ “บริษัท วัน โอ ซี คอร์โปเรชั่น จำกัด” ทำกิจการโรงเลื่อยไม้และค้าไม่เถื่อน ซึ่งทางโฆษกพรรค ระบุว่า บริษัทนี้ เป็นหนึ่งใน บริษัท ที่ตั้งไว้ดำเนินการธุรกิจส่วนตัวของ นายธนาธร ซึ่งเป็นบริษัทที่เปิดเตรียมไว้ทำกิจการ ในรูปแบบ sleeping company คือไม่ดำเนินกิจการใดๆ ซึ่งธนาธรเป็นนักธุรกิจที่มีหลากหลายกิจการจึงเป็นเรื่องปกติ
พร้อมทั้งตั้งขอสังเกตุว่า ในช่วงใกล้วันเลือกตั้ง ถึงมีการดำเนินคีดทางการเมืองบ่อยครั้งนัก รวมถึงยืนยันว่าทางพรรคพร้อมที่จะสู้ตามกฏหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ นายศรีสุวรรณ จรรยา ที่เข้าไปร้องให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ พรรคเชื่อว่าการพิมพ์ข้อมูลบนเว็บผิดก็ไม่ถึงขั้นยุบพรรค และเชื่อว่าไม่มีใครในประเทศไทย ที่เลือกธนาธร เพราะเคยเป็นประธานสภาอุตสาหกรรม
รวมถึงมองว่า คนที่กลัวและใช้ทุกวิถีทางเพื่อกีดกันคู่แข่งทางการเมือง คือ คสช. ต่างหาก ส่วนเรื่องของข่าวปลอมเป็นเรื่องของการเมืองรูปแบบเก่า ที่ใส่ร้ายป้ายสีกัน
โฆษกพรรคอนาคตใหม่ มองว่า พรบ.คอมฯ ยังมีปัญหาอยู่ เพราะมีบทลงโทษที่หนักเกินไป รวมถึงมีโอกาสตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองสูง ควรเป็นเรื่องที่ต้องให้ประชาชนใช้วิจารณญาณมากขึ้น
สำหรับการที่พรรคถูกดำเนินคดีต่างๆมากมาย โฆษกพรรคฯ เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่คาดการไว้แล้ว แต่ที่เกินความคาดหมายตรงที่ ข่าวทั้งหลายโจมตีมาที่ พรรคอนาคตใหม่เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่เป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้มีอำนาจกลัว พรรคอนาคตใหม่ จึงใช้ทุกวิธีทางในการกีดกันพรรคฯ
ผู้สื่อข่าวถามถึงจำนวน ส.ส. ที่คาดหวัง โฆษกฯ มองว่าจากการลงพื้นที่ และได้รับเสียงตอบรับมากมาย อาจได้ที่นั่ง ส.ส. เกินกว่า 70 ที่นั่งที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
