ตำรวจสภ.เมือกาฬสินธุ์ตามรวบโจรแสบอดีตลูกจ้างร้านขายสินค้าเกษตรแอบฉกกระเป๋าเจ้าของร้านชุดเช่ากวาดทรัพย์สินกว่า 1 แสนบาท พบตะเวนก่อเหตุอีกหลายแห่ง อ้างตกงานและหาเงินเสพยา
จากกรณีคนร้ายเป็นชาย 1 คน เข้าไปขโมยกระเป๋าของนางเพลินพิศ สุระเสียง อายุ 59 ปี เจ้าของร้านเพลินชุดเช่า เลขที่ 120/5 ซอยชัยสุนทร 1 ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยได้ทรัพย์สิน ทั้งแหวนเพชร พระสมเด็จนางพญาเลี่ยมทองและ เงินสด มูลค่ากว่า 1 แสนบาท และกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านสามารถบันทึกภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์เร่งแกะรอยกล้องวงจรปิด กระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 25 มกราคม 2561 พ.ต.อ.ชัยพร พงษ์ศักดิ์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ มอบหมายให้ พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รอง ผกก.(สอบสวน) ร.ต.อ.สาคร สาระกรณ์ ร้อยเวรสอบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่สายตรวจนำตัวนายชาตรี นาคอก อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.7 ต.หนองกุงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาในคดีลีกทรัพย์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านเพลินชุดเช่า เลขที่ 120/5 ซอยชัยสุนทร 1 ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ หลังก่อเหตุเข้าไปขโมยกระเป๋าและเอาทรัพย์สินของนางเพลินพิศ สุระเสียง อายุ 59 ปี เจ้าของร้าน โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ติดตามจับกุมตัวได้ พร้อมของกลางทรัพย์สินบางส่วน ภายในหอพักไม่มีเลขที่ในซอยเดียวกัน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้นำตัวนายชาตรี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านขายของชำ บริเวณถนนอนันฆนาค เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ หลังก่อเหตุในลักษะเดียวกัน โดยอาศัยจังหวะเจ้าของร้านเผลอเข้าไปขโมยทรัพย์สินแล้วหลบหนีไป
นางแม้นรัตนา กาญจันดา อายุ 63 ปี เจ้าของร้านขายของชำ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 23 ธันวาคม 2560 โดยขณะเกิดเหตุตนนั่งเฝ้าอยู่หน้าร้านและพอเดินไปเข้าห้องน้ำเพียง 3 นาที พอกลับออกมาก็พบว่ากระเป๋าเงินที่วางไว้ในตะกร้าและเงินสดรวมทั้งหมดประมาณ 10,000 บาท ก็ถูกขโมยไปแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งมีการมีการจับกุมตัวได้ดังกล่าว จึงขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองกาฬสินธุ์ทุกนาย ที่ร่วมกันจับคนร้ายได้เร็วไม่ไปสร้างความเดือดร้อนกับชาวบ้านอีก
ด้านพ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆและสอบสวนพบว่าผู้ต้องหารายนี้นอกจากจะก่อเหตุเข้าไปขโมยทรัพย์สินในร้านชุดเช่าและร้านขายของชำแล้ว ยังตะเวนไปก่อเหตุขโมยทรัพย์สินในบ้านประชาชนภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์อีก 2 แห่ง รวมทั้งหมดที่ก่อเหตุ 4 แห่ง มีทรัพย์สินถูกขโมยไปหลายรายการ ทั้งเงินสด แหวนเพชร และทองคำ ซึ่งหลังก่อเหตุทาง พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.กาฬสินธุ์ และพ.ต.อ.ชัยพร พงษ์ศักดิ์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ตำรวจสภ.เมืองกาฬสินธุ์เร่งติดตามตัวคนร้าย เนื่องเป็นการก่อเหตุที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน กระทั่งชุดสืบสวนจับกุมตัวได้ดังกล่าว โดยผู้ต้องหาอ้างว่า เมื่อก่อนเคยทำงานเป็นลูกจ้างของร้านจำหน่ายสินค้าเกษตรแห่งหนึ่ง แต่ระหว่างทำงานยกกระสอบปุ๋ยเกิดหกล้มหัวเข่าเจ็บไม่สามารถทำงานต่อได้ จึงตกงานและออกมาตะเวนขโมยทรัพย์สินของชาวบ้าน เนื่องจากเห็นว่าได้เงินง่ายไม่ต้องออกแรงมาก โดยทรัพย์สินที่ได้ส่วนใหญ่เป็นเงินสด แต่หากเป็นทรัพย์สินที่มีค่าก็จะนำไปขาย เพื่อเอาเงินมาเที่ยวเตร่ อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามทรัพย์สินบางส่วนที่ผู้ต้องหาอ้างว่านำไปขายอีกหลายรายการ
