อากาศร้อนรถกระบะบรรทุกถังบรรจุสารเคมี ประเภท HYDROGEN PEROXIDE 50 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 100 ถัง ขับมาดีดีไฟลุกท่วมโชคดีดับเพลิงช่วยทัน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 มีนาคม 2562 พ.ต.อ.ประกอบ อินทร์เกตุ สารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้รถ บนถนนสุขุมวิท ห่างจากสามแยกปู่เจ้า ประมาณ 100 เมตร ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาลตำบลสำโรงเหนือ เดินทางเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- พร้อมรับสมัครเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ.พังงา เชิญชวนคนดีมีความสามารถมาสมัคร 23-27 ธันวาคมนี้
- ตรัง ชาวบ้านสืบสานอนุรักษ์การปลูกข้าวไร่ไว้กินเองครอบครัวเหลือขาย
- ภาคธุรกิจเอกชนหอการค้าชัยภูมิชี้แนวทางรัฐบาลพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก!
- ทนายเกรียง พา สาวนักแข่งรถจักรยานยนต์ทีมชาติไทย แจ้งความดำเนินคดีกับนายกสมาคม ข้อหาหมิ่นประมาท และ พรบ.คอม
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะตู้ ยี่ห้อ โตโยต้า วีโว่ สีขาว ทะเบียน 2 ฒท 7096 กรุงเทพมหานคร ที่บรรทุกถังบรรจุสารเคมีประเภท HYDROGEN PEROXIDE 50 เปอร์เซ็นต์ ขนาด 50 ลิตรจำนวน 100 ถัง สีฟ้ามาเต็มกระบะท้ายรถ จอดอยู่ริมถนน โดยมีเปลวไฟกำลังลุกไหม้ถังบรรจุเคมีที่บรรทุกอยู่บนท้ายกระบะก่อนที่จะลุกลามขึ้นไปลุกไหม้หลังคา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่นานกว่า 10 นาทีเพลิงจึงสงบ แต่สารเคมีที่ตกลงพื้นผสมกับน้ำจะเกิดเป็นฟอง แต่พอฟองแตกก็จะมีควันและกลิ่นออกมา จำนวนมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องฉีดน้ำล้างสารเคมีออกจากเพื่อไม่ให้เกิดกลุ่มควันและกลิ่นเหม็นของเคมีจนหมด ก่อนเข้าตรวจสอบภายในรถกระบะคันดังกล่าวได้ พบว่าเปลวไฟได้ลุกไหม้ถังบรรจุสารเคมีบนท้ายรถกระบะคันดังกล่าวเสียหายไปกว่า 50 ถัง
จากการสอบถามนายเจนภพ พันวิจิตร อายุ 24 ปี คนขับรถกระบะคันดังกล่าว ได้เล่าว่า ตนรับจ้างขนถังบรรจุสารเคมีดังกล่าวมาจากโรงงานฝั่งพระประแดง กำลังจะนำไปส่งโรงงานที่จังหวัดจันทบุรี โดยใช้ถนนปู่เจ้าสมิงพราย และมาใกล้ถึงที่เกิดเหตุตนสังเกตเห็นน้ำสีน้ำตาลไหลลงมาที่กระจกหน้ารถ ตนไม่ได้เอะใจ จนกระทั่งขับมาจนถึงทางแยกตนเห็นควันลอยออกจาก จึงได้รีบจอดรถ และลงมาเปิดประตูตู้ด้านท้ายกระบะดูได้พบกลุ่มควันจำนวนมากพร้อมกลิ่นเหม็นของสารเคมีพวยพุ่งออกมาก่อนที่จะมีเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นบนถังบรรจุสารเคมีที่บรรทุกมาอย่างรุนแรง ตนจึงรีบวิ่งหนีตายออกมาและโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่าขณะที่บรรทุกถังบรรจุสารเคมีดังกล่าวมาบนท้ายรถซึ่งสารเคมีดังกล่าวเป็นสารเคมีชนิดไวไฟถังที่บรรจุเกิดแตกหรือรั่วทำให้สารเคมีรั่วไหลออกมาผสมกับอากาศและความร้อนภายในตู้ท้ายรถจนทำให้เกิดกลุ่มควันก่อนที่จะกลายเป็นเปลวไฟลุกขึ้นมา อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: