โจรหนุ่มใจกล้ารอบแรกเข้าตีเนียนทำทีขอดูสร้อยทองเห็นท่าไม่สดวกในการก่อเหตุเอ่ยปากออกอุบายไปกดเงินก่อนเปลี่ยนเสื้อผ้าย้อนเข้ามารอบสองขอลองสวมใส่สร้อยทองก่อนสวมบทโจรวิ่งออกไปขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าร้านหลบหนีลอยนวล
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 16 มี.ค.62 ร.ต.อ.วรุตม์ พรมลาย รอง สว.สอบสวน สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุ คนร้าย ก่อเหตุ ชิงทรัพย์ ร้านทองเตียเซ่งเฮง ภายในหมู่บ้านบัวทองธานี หมู่ 14 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและ เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุ พบ พ.ต.ท.สุชาติ จันเมธากุลวัฒน์ อายุ 55 ปี สว.กลุ่มงานนิติกร ด้านสอบสวน วน. เป็นเจ้าของร้านทอง ชื่อร้านทองเตียเซ่งเฮง ยืนรอให้รายละเอียดโดยทราบว่าถูกคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น ทำทีเข้ามาซื้อทองคำหนัก 1 บาท เมื่อเอาทองมาทดลองสวมใส่ที่คอ จากนั้นก็วิ่งออกจากร้านไปขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่จอดอยู่หน้าร้านหลบหนีมุ่งหน้าออกไปทาง ถนน ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี
และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ภายในร้าน พบว่า คนร้าย จำนวน 1 คน เข้ามาช่วงเวลา 12.13 น. เข้ามาครั้งแรก สวมกางเกงขาสั้นสีดำ เสื้อยืดสีดำ สวมหมวกสีเหลือง จอดรถจักรยานยนต์ไว้ฝั่งตรงข้าม แต่ในขณะนั้นมีลูกค้าภายในร้านหลายคนจึงทำทีสอบถามราคาทอง แล้วออกจากร้านไป กระทั่งกลับเข้ามาอีกครั้ง เวลา 12.27 น.โดยครั้งนี้ใส่เสื้อแขนยาว มีฮูดสีเทาสวมหมวกสีเหลือง เข้ามายืนเลือกสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และลองขอสวมใส่ดูเมื่อเจ้าของร้านเผลอ ก็ได้วิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ที่จอดอยู่หน้าร้านหลบหนีไปทางหน้าหมู่บ้าน
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าคนร้าย จำนวน 1 คน อายุ ไม่เกิน 25 ปี ทำทีเข้ามาซื้อทองซึ่งครั้งแรกที่เข้ามาคนร้ายเห็นว่าภายในร้านนั้นมีลูกค้าอยู่ในร้านทองหลายคนไม่สดวกในการก่อเหตุ จึงทำทีถามราคาทองก่อนเดินออกจากร้านไป โดยบอกว่าจะไปกดเงินก่อน กระทั่งกลับมาอีกครั้ง โดยครั้งนี้สวมเสื้อแขนยาว มีฮูดสีเทาทำทีขอซื้อสร้อยทอง หนัก 1 บาท เมื่อเอามาสวมใส่คนร้ายยังทำทีเลือกสร้อยทองเส้นอื่นให้ถูกใจสลับลองใส่ไป-มา พอเจ้าของร้านเผลอก็รีบวิ่งออกจากร้านไปขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางด้านหน้าหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ กองพิสูจน์หลักฐานได้เดินทางมาเก็บรอยนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ขณะเดียวกันทางฝ่ายสืบสวน เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ตามทางการเพื่อดูเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย พร้อมทั้งจะต้องนำภาพจากกล้องวงจรปิดของทางร้านไปตรวจสอบอีกครั้งเนื่องจากพบว่ากล้องนั้นจับภาพและเห็นใบหน้าคนร้ายอย่างชัดเจนเพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
