ระนอง-การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรในรอบใหม่นี้ จบลงด้วยความดุเด็ดเผ็ดมันส์ ลุ้นระทึก และเป็นสนามที่น่าจับตาเป็นอย่างมากที่สุดสำหรับพื้นที่หนึ่ง เมื่อ จ.ระนองที่เป็นพื้นที่ที่มีเขตเลือกตั้งเดียว มี ส.ส.ได้คนเดียว แต่การชิงชัยดุเดือด เข้มข้น
ช่วงแรกดูจะเหมือนคู่ต่อสู้ชิงชัยจะมีเพียง วิรัช ร่มเย็น เจ้าของที่มั่นเก่าคุมพื้นที่มายาวนาน ในฐานะแชมป์ 8 สมัย ในสีเสื้อพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 14 มารอบนี้ดูจะมีคู่ชิงที่สมน้ำสมเนื้อขึ้นมาประกาศท้าชิงชนิดที่ “แพ้ไม่ได้” นั่นคือทายาทลูกชิ้นนายฮั่งเพ้ง บดินทร์ฉัตร มาลีรัตน์ ที่ชื่อ “นายกเอ คงกฤษ มาลีรัตน์” อดีตนายก อบจ.ระนอง เบอร์ 3 พรรคภูมิใจไทย ที่ยอมทิ้งตำแหน่งหัวเรือใหญ่ อบจ. ลงสู้ศึกการเมืองระดับชาติเต็มกำลัง ทำให้ศึก ส.ส.ระนองในครั้งนี้จึงกลายเป็นศึกช้างชนช้างก็ว่าได้ “อีกฝ่ายแพ้ไม่ได้ ส่วนอีกฝ่ายต้องไม่แพ้…”
แถมยังมีตาอยู่ผู้สอดแทรกที่ไม่สามารถวางใจได้ นั้นคือเบอร์ 12.นายพงศกร พรหมสุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ รวมทั้งผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ โดยเฉพาะผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ เจ้าของบัตรคนจน ที่ผู้เขียนเคยวิเคราะห์ว่าจะเบียดแซง วิรัชเพราะแรงหนุนจากลุงตู่ แต่ได้รับการสบประมาทจากคนของพรรคดังเจ้าของพื้นที่ว่า “เป็นไปไม่ได้” สุดท้ายความจริงก็ปรากฏให้เห็น
เสียงชาวบ้าน”สะท้อน “ไม่เคยคิดถึงชาวบ้าน ผลงานแทบไม่มีให้เห็น 24 ปี 8 สมัยจึงต้องจบด้วยความพ่ายแพ้เช่นนี้ ผู้เขียนเคยเตือน คุย ด้วยความรักทุกฝ่ายว่าทำไมจึงไม่เข้าหาชาวบ้านบ้าง สอบถามทุกข์สุข เยี่ยมเยียนชาวบ้าน พบปะพูดคุย ให้ชาวบ้านเห็นหน้าตามประชาคุณเป็นตัวแทนชาวบ้าน ตัวแทนชาวระนอง ก็ได้รับคำตอบว่า เป็นวิถีที่ต้องเก็บตัว ตามสไตล์ เค้าไม่ถนัดพบผู้คน จะให้ออกไปเยี่ยม หรือคุยกับชาวบ้านทั้งแสนกว่าคนคงไม่มีเวลา(24 ปีป่านนี้ถ้าเดินทุกวันคงครบทุกบ้าน) มองตัวเองเป็นหลัก
สุดท้าย “เสาไฟฟ้าก็ถูกถอนในที่สุด” จะบอกให้ว่าคิดจะฟื้นศรัทธากลับคืนคงยากอีกต่อไป เมื่อโอกาสที่คนระนองให้มานานกว่าทศวรรษ ไม่ได้ถูกใช้ให้เกิดประโยชน์แม้แต่น้อย อีกทั้งไม่ยอมเปลี่ยนแปลงหาคนใหม่ เสนอสิ่งใหม่ แต่ยังเน้นการสืบทอดคนรุ่นเก่า ” นี่คือบทเรียนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ล้มเหลวทั่วประเทศในการเลือกตั้งครั้งนี้ หากยังไม่เปลี่ยนแปลงสมัยหน้าอาจจะไม่มีให้หลงเหลืออีกต่อไป
บทสรุปสุดท้ายความหวังใหม่อย่าง นายกเอ คงกฤษ เบอร์ 3 เจ้าของสโลแกนลดอำนาจรัฐ แก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน จ.ระนอง สร้างผลงานที่โดดเด่นในช่วงที่เป็น นายก อบจ.จนชาวบ้านพอใจในผลงานเป็นอย่างมาก ทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้จบลงที่ชัยชนะของนายกเอ คงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ ที่เป็นผู้กำชัยคือผู้ที่ครองใจคนระนองในการศึกครั้งสำคัญนี้อย่างแท้จริง
