ชัยภูมิ – คึกคัก! หลังผ่านพ้นวันเลือกตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันที่ 24 มี.ค.62 ทีผ่านมา และการจัดตั้งรัฐบาลที่จะตามมา จะยังไม่ลงตัวในขณะนี้ได้ ซึ่งอีกทั้งในช่วงนี้เป็นช่วงเข้าสู่ฤดูร้อน และเป็นช่วงปิดภาคเรียนของบุตรหลาน ที่แต่ละครอบครัวกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวคลายร้อนไปพักผ่อนกับครอบครัวและเป็นจังหวะได้ช่วยคลายเคลียร์พักยกหลบร้อนทางการเมืองลงได้บ้าง ในวันนี้จะพาไปดูที่เขื่อนลำปะทาว อีกหนึ่งสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวของดีเมืองชัยภูมิ กัน!
( 26 มี.ค.62 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ ชาวบ้านท่าหินโงม อ.เมืองชัยภูมิ ที่นอกจากจะทำการเกษตร เช่น ทำนา ปลูกยาง ปลูกสับปะรด ที่ช่วงนี้ต้องหยุดการเพราะพืชใช้น้ำมากลงกันเป็นจำนวนมาก เพื่อประหยัดน้ำช่วยกันไว้ใช่ยามหน้าแล้งปีนี้ และหันไปหาอาชีพเสริมหรือปลูกพืชใช้น้ำน้อยๆแทนแล้ว
อาชีพเสริมที่เข้ามาช่วยสร้างรายได้ดีในช่วงหน้าแล้งนี้ ยังมีกลุ่มทำการเลี้ยงปลากระชังในเขื่อนลำปะทาว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปลานิล คนทั่วไปจะรู้จักในรสชาดของปลาที่เขื่อนลำปะทาวกันดียาวนาน เพราะเนื้อปลาที่นี่จะมีคุณภาพเนื้อแน่นไม่มีกลิ่นสาบ และนำไปทำอาหารต้องยอมยกโป้ให้ว่า “แซบอีหลี” ตามภาษาพื้นที่ของชาวอีสาน
ข่าวน่าสนใจ:
และในฝังลำปะทาว อีกด้านหนึ่งของเขื่อนล่าง จะเป็นรอยต่อของเขตอ.เมืองชัยภูมิและเขตอำเภอแก้งคร้อ ที่ชาวบ้านผลิกชีวิตจากเดิมทำแค่การเกษตร เลี้ยงปลาและหาปลาธรรมชาติจำหน่าย ด้วยสถานที่และภูมิทัศน์อันสวยงาม ในน้ำเป็นสายธารกว้างและยาวไกลหลายกิโลเมตร ริมฝั่งเป็นเนินภูเขา มองเห็นทิวทัศ์ธรรมชาติริมฝั่งสวยงามร่มรื่นไปตลอดทาง
จนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา นางกีระติ โน๊ตศิริ อายุ 55 ปี เป็นชาวบ้านห้วยหินลาด หมู่ที่ 8 ต.เก่าย่าดี อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ จึงเกิดแนวความคิดว่าเมื่อสถานที่ทิวทัศน์สวยงามในพื้นที่ริมน้ำลำปะทาวมีอยู่ให้เห็นเป็นจำนวนมาก และ น่าจะเกิดการสร้างอาชีพเสริมให้กับกลุ่มคนในชุมชนที่นี่เกิดขึ้น และมีการทำเป็นร้านอาหารพื้นบ้าน ที่วัตถุดิบหาจากธรรมชาติได้ง่าย มีก็ขาย หมดก็หยุดขาย เริ่มแรกก็ติดป้ายขายแค่อาหาร และที่สำคัญไม่อยากให้ลูกๆ ซึ่งมี 2 คน (ชาย 1 หญิง1) ไปทำงานห่างไกลพ่อและแม่ จึงได้ต่อเติมเป็นร้านอาหารในน้ำ วางบนถังเปล่า ต่อมาได้พัฒนาเป็นแพล่องเปิดเป็นแหล่งเล่นน้ำช่วยคลายร้อนในช่วงหน้าแล้ง จาก 2 หลัง ขยายเป็นจำนวนประมาณ 10 กว่าหลัง พร้อมขายอาหารเน้นประเภทปลาที่ชาวบ้านเขตเขื่อนลำปะทาวที่จับมาและเลี้ยงขาย มาทำอาหารรสแซบ จนใครที่ได้มาชิมต่างบอกต่อๆกันว่า “แซบอีหลี”
จนมาปัจจุบันจากการบอกต่อของลูกค้า และด้วยความทันสมัย ของลูกสาว ที่ช่วยให้กลุ่มเลี้ยงปลาและทำแพล่องเล่นน้ำชมธรรมชาติในลำปะทาวเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และใช้วิทธิช่วยทำการตลาดการโปรโมททางโซเซียล เช่น กลุ่มไลน์ แฟนเพจ เฟสบุ๊ค จนทำให้คนรู้จัก โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ต่างพากับมาเที่ยวล่องแพ เล่นน้ำ ทานอาหารซึ่งมีเมนูให้เลือกอย่างมากมาย ด้วยฝีมืออันเป็นเลิศของคุณแม่ “กีระติ” หัวหน้ากลุ่มสร้างอาชีพของชาวอ.แก้งคร้อ
ที่นอกจากจะเป็นสร้างงานสร้างรายได้ให้กับครอบครัว คุณแม่ “กีระติ” ยังได้ช่วยเหลือชาวบ้านของหมู่บ้านให้มาช่วยกันบริการแก่นักท่องเที่ยวซึ่งมีมากในแต่ละวัน โดยเฉพาะวันหยุด ทั้งนี้ยังได้ให้ชาวบ้านนำผลผลิตทางการเกษตร เช่น ผัก และปลากระชังมาปรุงเป็นอาหารจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวสร้างรายได้เสริมช่วงหน้าแล้งที่ปลูกข้าวไม่ได้ให้กับคนในชุมชนในช่วงนี้เป็นอย่างวดีอีกด้วย
ด้าน นายยุติธรรม กำเนิดบุญ อายุ 44 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เล่าว่า เขื่อนลำปะทาว เป็นการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่สามารถกักน้ำในหน้าแล้ง ชาวบ้านได้เลี้ยงปลากระชังเป็นอาชีพ ซึ่งมีบริษัทประกันราคาขายสร้างรายได้ และชาวบ้านบางส่วนก็หาปลาธรรมชาติไปขาย พร้อมกันนี้ ชาวบ้านยังสามารถจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวมาแวะชมการเลี้ยงปลา ทำให้เรามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจำนวนมากมาได้จนปัจจุบัน ชาวบ้านบางส่วนยังได้นำมามาขายให้กับอาหาร ทางร้านได้นำไปปรุงอาหารให้นักนักท่องเที่ยว จึงเป็นการสร้างรายได้ร่วมกัน รายได้พอยู่พอกิน ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็เกิดความรักและสามัคคีกัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: