“อุตตม” ยืนยันไม่มีการซื้อตัว ส.ส. ขอให้รอความชัดเจน 9 พฤษภาคม “สนธิรัตน์” ถามกลับ ไม่คิดว่าพรรคอื่นงูเห่าพรรคพลังประชารัฐบ้างหรือ ?
(29 มี.ค.62)ที่ พรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคฯ พร้อมด้วย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค , นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค , นาย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง และกรรมการบริหารพรรค ออกแถลงการณ์ถึงผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยพรรคพลังประชารัฐขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความไว้วางใจและเลือกผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐจะได้รับคะแนนสูงสุดถึง 8.4 ล้านเสียง
โดยรายละเอียดของแถลงการณ์มีดังนี้
1. พรรคพลังประชารัฐขอยึดมั่นและจะทำหน้าที่ภายใต้รัฐธรรมนูญเพื่อปกป้องประโยชน์ของประเทศชาติและพี่น้องประชาชน
2. พรรคพลังประชารัฐขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองเคารพการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนทุกคะแนนเสียงที่ได้เลือกผู้สมัครของพรรคการเมืองใดก็ตามย่อมถือว่าเป็นสิทธิ์ของพี่น้องประชาชนไม่ควรมีใคร กล่าวอ้างว่า เสียงของพี่น้องประชาชนเป็นเสียงที่ชอบธรรมของฝ่ายเดียว เพราะจะนำไปสู่การแบ่งแยกอันก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคม
3. พรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งทุกพรรคการเมืองสามารถรวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลได้แต่ในระหว่างที่ กกต. ยังไม่ประกาศผลอย่างเป็นทางการ การรวบรวมเสียง ส.ส. เพื่อสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลย่อมจะไม่มีผลทางการเมือง
ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ อีกขั้วการเมืองหนึ่ง ระบุว่า ตนเองเป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตย นายสนธิรัตน์ ระบุ เรื่องนี้ถือว่าเป็นความกังวลใจของพรรคจึงเป็นที่มาของประกาศการแถลงการณ์ในข้อ 2 เพื่อไม่ให้มีการแบ่งแยกและใช้วาทกรรมทางการเมืองในการสร้างความแตกแยกในสังคม
“…คะแนนที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้มีใครช่วยเรา…”
ขณะที่ผู้สื่อข่าว ถามถึงกรณีที่ หลังจาก กกต. ประกาศผลอย่างไม่เป็นทางการครบ 100% และพรรคพลังประชารัฐมีคะแนนเพิ่มขึ้น เรื่องนี้ นายอุตตม ระบุว่า ขณะที่เพิ่มขึ้นมานั้น ยืนยันว่าไม่ได้มีการช่วยเหลือจากใครเพราะว่าพรรคพลังประชารัฐก็เป็นอีกหนึ่งพรรคการเมืองที่ลงสมัครในการเลือกตั้งครั้งนี้เช่นกัน
ขณะที่มีตัวแทน พรรคเพื่อไทย เข้าไปร้องเรียนที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้มีการเลือกตั้งใหม่ในบางเขต นายสนธิรัตน์ ระบุ ว่าการร้องเรียน กกต. ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ ขณะเดียวกันพรรคพลังประชารัฐก็มี ข้อกังขาไปถึง กกต. เช่นกัน ทั้งในเรื่องการประกาศคะแนนที่ล่าช้า การคิดคำนวณคะแนนที่ตัวเลขเพิ่มขึ้น , ข้อสังเกตของพี่น้องประชาชนเรื่องบัตรดีบัตรเสีย และการคำนวณคะแนน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่ถึงแม้ว่าพรรคพลังประชารัฐจะมีคะแนนเพิ่มขึ้น แต่เหตุใดทำไม ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคถึงลดลง ซึ่งการที่มีการเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ในบางเขตนั้นก็ถือเป็นดุลพินิจของ กกต. รวมถึงการตอบข้อกังขาของพี่น้องประชาชนและพรรคการเมือง ก็เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะต้องพิสูจน์ให้พี่น้องประชาชนเห็น
สำหรับกรณี การรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า เรื่องนี้ก็ต้องขอให้ กกต. ประกาศผลอย่างเป็นทางการก่อนในวันที่ 9 พฤษภาคม เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนสับสน ในระหว่างนี้พรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคจะประเมินสถานการณ์และประเมินนโยบายรวมถึงยุทธศาสตร์ของพรรคอย่างต่อเนื่อง
“…ขอยืนยัน ว่า เราไม่เคยซื้อตัว ส.ส…”
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่า มีการซื้อตัว ว่าที่ ส.ส. ของแต่ละพรรคการเมืองมาอยู่ฝั่งพรรคพลังประชารัฐ เรื่องนี้ นายอุตตม ยืนยันว่า ไม่มีการซื้อตัวและสำหรับกระแสข่าวที่เกิดขึ้นทางพักก็จะมีการชี้แจงอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและเข้าใจผิด
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวเสริมว่า ขอให้ดูข้อเท็จจริงเป็นหลักและอย่าใช้วาทกรรมรายวันมาตัดสินพรรค ซึ่งกระแสข่าวที่บอกว่าพรรคพลังประชารัฐมีการดึงว่าที่ ส.ส. ของพรรคการเมืองต่างๆเข้าสู่พรรค ก็ต้องมองย้อนกลับไปด้วยว่าพรรคอื่นอื่นๆดูด ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐไปด้วยหรือไม่
อย่างไรก็ตามช่วงนี้ อย่างที่ทางด้านของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่าจะมีความชัดเจนหลังวันที่ 9 พฤษภาคม เพราะว่าช่วงเดือนเมษายนนี้จะมีพระราชพิธีสำคัญ ดังนั้นการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ถือว่าแตกต่างออกไปจากการจัดตั้งรัฐบาลทุกๆครั้งที่ผ่านมา
