ชุมพร–พ่อชั่วปากแข็ง อ้างไม่ใช่พ่อแท้ๆ หัวหมอร้องขอทนาย ผบก.ตร.สอบเองตั้ง 2 ข้อหาหนัก ชั่วจัดเร่ขืนใจ 3 จังหวัด
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 2 กพ.61 ที่ สภ.อ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ตั้งแต่ เช้ามืด ของวันนี้ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี พ่อข่มขืนลูก13 ปี นำตัว ผู้ต้องหามาสอบปากคำ ผู้ต้องหาร้องขอทนายความให้มานั่งฟังการสอบสวน ตามสิทธิตามกฎหมาย ตำรวจจึงได้ประสานงานไปยังทนายความท่านหนึ่ง ให้เดินทางมาฟังการสอบสวน โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน เข้าติดตามการสอบสวนแต่อย่างใด ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไมได้กระทำความผิดดังกล่าว อีกทั้งปฏิเสธว่า ไมได้เป็นพ่อแท้ๆ ของ ผู้เสียหาย โดยอ้างว่าในเวลาที่คบกับแม่ของเด็กนั้น แม่ของเด็กทำงานอยู่ในสถานบริการแห่งหนึ่ง ในตลาดหลังสวน และน่าจะมีความสัมพันธ์ กับคนอื่น ต่อเมื่อมาอยู่กับผู้ต้องหาจึงตั้งครรภ์ ทำให้ผู้ต้องหาไปมีภรรยาใหม่ และ แม่ของผู้เสียหายก็ไปมีสามีใหม่ อย่างไรก็ตาม การสอบสวนมาจนถึงจุดดังกล่าว ก็ต้องยุติ เนื่องจากมีสื่อมวลชนเดินทางไป ยัง สภ.หลังสวน ทำให้พนักงานสอบสวนสั่งให้นำตัวผู้ต้องหาเข้าห้องขัง และ ห้ตำรวจฝ่ายคดีไปยื่นขอเลื่อนฝากขังต่อศาลต่อไป
ต่อมาเวลา 14.00น.วันที่ 2กพ.61 ที่ สภ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ตร.ชุมพร เดินมายัง สภ. พร้อมทั้ง ให้ พ.ต.อ.นิรันดร์ กันจู ผกก. ร.ต.อ.หญิง หัทยา อ่าวเจริญ พงส. และ นายจอม(นามสมุติ) อายุ 35 ปี พ่อของ ดญ.13 ปี ที่ก่อคดีข่มขืนลูกของตนเอง เข้าไปสอบถามที่ห้อง ผกก. ใช้เวลาในการสอบถาม ร่วม 3ชม.
เวลา 16.00 น.พล.ต.ต.สนธิชัย เปิดเผยว่า “ในเบื้องต้น นาย จอมให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมทั้งอ้างว่า ไม่ใช่พ่อที่แท้จริงของ ดญ.อายุ 13 ปี โดยเล่าว่าเมื่อสิบกว่าปีก่อน แม่ของ ดญ.13 ปี ได้ไปหาที่บ้านใน อ.วิภาวดี จ.สุราษฏร์ธานี พร้อมทั้งบอกว่า ตั้งครรภ์กับนายจอม ขอให้รับเป็นพ่อของเด็ก ด้วยความเห็นใจว่าเคยคบกันในขณะที่แม่ของ ดญ.13 ปี ทำงานเป็น หญิงบริการ ใน อ.หลังสวน จึงยอมรับว่าเป็นพ่อ แต่ไม่ได้ให้ใช้ชื่อในใบเกิดว่าเป็นพ่อของดญ.13 ปี แต่ได้มาเยี่ยมและดูแล ดญ.13 ปีในช่วงที่ยังเล็กๆ ในขณะที่อยู่กับยาย ทำให้ ดญ.13 ปี เรียกพ่อมาตลอด จนกระทั่งมาเกิดเรื่องที่เป็นข่าว
ในขณะนี้ ได้ตั้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน13 ปี และพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ในการจับกุมทำตามหมายจับของศาล ใน2 ข้อหา ถึงจะปฏิเสธ แต่ ตำรวจมีหลักฐาน อาทิ จม.ที่เขียนด้วยลายมือของเด็ก คำให้การของเด็ก ที่เด็กจดเอาไว้ว่าโดนข่มขืนที่ไหนบ้าง ในหลายสถานที่ ทั้ง ชุมพร สุราษฏร์ นครศรีธรรมราช เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ ส่วนที่บอกว่านายจอมเป็นพ่อของเด็กแต่นายจอมปฏิเสธ จึงได้สั่งการให้มีการตรวจดีเอ็นเอทั้งของ เด็กและ ผู้ต้องหา และ เรียกแม่ของเด็กมาสอบปากคำ ถ้าปรากฏชัดเจนจะมีการเพิ่มข้อหาใน กระทำชำเราผู้สืบสันดาน
นอกจากนั้นยังมีผู้ต้องหาอีกคนที่เคยล่วงละเมิดทางเพศเด็กที่ตำรวจไปจับกุมมาด้วยแล้วเช่นกัน เรื่องนี้เป็นปัญหาสังคมตั้งแต่ในอดีตที่มีสภาพบ้านแตก และนายจอมมาอ้างว่าเป็นพ่อ และก่อเหตุขึ้น จนยายมาร้องตำรวจก็ได้ดำเนินการตามกฏหมาย รวมถึงการตรวจสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับว่าเสพยาบ้า ผบก.ตร.ชุมพร กล่าวต่อไปว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8 ได้โทรศัพท์มากำชับกับตนโดยตรง ให้ลงมาคุมคดีนี้ ด้วยตนเอง อีกทั้ง ในส่วนตัวของเด็กหญิง 13 ปี ได้ มอบให้ จนท. พม.จังหวัดชุมพรรับตัวไปดูแล เพื่อความปลอดภัยและชีวิตที่ดีขึ้นของเด็กแล้ว
