ลูกจ้างกรีดยางพาราของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จำนวน 22ครอบครัว เดือดร้อนอย่างหนัก หลังหยุดกรีดยางตามนโยบายรัฐบาล เนื่องจากยังไม่ได้รับเงินชดเชย 
ไม่มีเงินสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว และลูกหลานต้องเรียนหนังสือ ส่วนหนึ่งต้องระเห็จออกไปหางานรับจ้างทั่วไปรายวัน มีงานบ้างไม่มีงานบ้าง
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561 ที่สวนยางพาราของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) พื้นที่หมู่ที่ 1 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา ลูกจ้างกรีดยางพาราของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.)ซึ่งมีทั้งหมด 22ครอบครัว ต่างได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากไม่มีเงินสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว และลูกหลานต้องเรียนหนังสือ ส่วนหนึ่งต้องระเห็จออกไปหางานรับจ้างทั่วไปรายวัน มีงานบ้างไม่มีงานบ้าง หรือบางคนออกไปหาแปลงยางพื้นที่อื่นกรีด แต่มีรายได้แค่วันละกว่า 100 บาท จึงไม่เพียงพอ เพราะราคายางยังตกต่ำ ทำใหเดือดร้อนหนัก ส่วนใหญ่ต้องใช้เงินสวัสดิการแห่งรัฐเดือนละ 200 – 300 บาท ออกไปซื้อข้าวสารมาไว้หุงประทังชีวิต แต่ไม่เพียงพอ โดยผลกระทบทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากต้องหยุดกรีดยางพาราในทันที ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมปริมาณผลผลิตยาง เพื่อลดปริมาณผลผลิต โดยดำเนินการให้หยุดกรีดในพื้นที่ของรัฐ จำนวน 120,000 ไร่ เป็นเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2561รวมเป็นเวลา 3 เดือน
ทั้งนี้ ลูกจ้างกรีดยางของ กยท.ดังกล่าวได้หยุดกรีดยางอย่างสิ้นเชิงนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา โดยที่ กยท.ยังไม่ไ้ด้ชดเชยช่วยเหลือ ขณะที่พื้นที่กรีดยางขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) ยังคงกรีดยางตามปกติ เพราะลูกจ้างต่างไม่มั่นใจว่าจะได้รับเงินชดเชย กลัวจะได้รับความเดือดร้อนไม่มีเงินเลี้ยงครอบครัว
นายสมพล ชัยปัญญา อายุ 52 ปี และนางนภศร เรืองศรี อายุ 41 ปี ตัวแทนลูกจ้างกรีดยางพาราของกยท. กล่าวว่า เดิมทีได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่ารัฐบาลจะชดเชยรายได้ที่จะต้องหยุดกรีดยางทั้ง 3 เดือนๆละ 4,600 บาท แต่ผ่านมาเดือนเศษแล้ว ลูกจ้างทุกรายยังไม่ได้รับเงินชดเชยดังกล่าว ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ได้แต่ออกหางานรับจ้างทั่วไปทำ แต่มีงานบ้าง ไม่มีงานบ้าง หรือไปขอกรีดยางในแปลงอื่น ต้องกรีดนับ 1,000 ต้น ได้น้ำยางแค่กว่า 30 กิโลกรัม ราคาก็ตกต่ำกิโลกรัมละ 38 – 39 บาท เมื่อแบ่งกับนายจ้างแล้วได้วันละ100 บาทเศษ ทำให้ไม่พอรายจ่ายเดือดร้อนอย่างหนัก ทุกวันนี้ซื้อข้าวสารประทังชีวิตด้วยเงินสวัสดิการแห่งรัฐเดือนละ 200 – 300 บาท วอนขอให้การยางแห่งประเทศไทยเร่งช่วยเหลือ ที่สำคัญรัฐบาลบอกว่าถ้าพวกเราหยุดกรีดทั้งประเทศจำนวน 120,000 ไร่ จะทำให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งขณะในวันหยุดกรีดราคาประมาณกิโลกรัมละ 40 บาท แต่ชณะนี้ราคาก็ยังไม่ดีขึ้น เหลือกิโลกรัมละ 38 – 39 บาท กลับลดต่ำลงมาอีก และยังไม่ทราบว่าจะได้กลับมากรีดยางได้อีกเมื่อไหร่ เพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ถ้าราคายางยังไม่ดีขึ้นอาจจะต้องหยุดกรีดมากกว่า 3 เดือน
