ศปชล.ระนอง เร่งวางทุ่นเตือนหลังเรือท่องเที่ยวเกิดเหตุชนเสาตอหม้อใต้น้ำ
ระนอง-สูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเล ร่วมหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งวางทุ่นกลางทะเลเตือนเรือ หลังเกิดเหตุเรือโดยสารขนาด 160 ที่นั่ง กำลังจะออกไปรับนักท่องเที่ยวจำนวน 106 เพื่อไปท่องเที่ยวดำน้ำดูปะการัง ในพื้นที่ท่องเที่ยวของจังหวัดระนอง ซึ่งเรือลำดังกล่าวออกจากท่าจอดเรือมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ อ.กะเปอร์ ระยะทาง 35 ไมล์ทะเล แต่ออกเรือมาได้เพียง 1.5 ไมล์ทะเล กลับมาจนกับเสาตอหม้อที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งของไฟบอกทางกลางทะเล แต่เสียไปเมื่อปี 2560 แต่ไม่ได้มีการจัดเก็บเสาตอหม้อจนเกิดเหตุเรือชนและจมกลางทะเลดังกล่าว เมื่อวันที่ 5 เมษายน 62 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ ม.1 ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง
นาวาตรี ก้องคชา เกิดชูชื่น รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเล ไทย-เมียนมา กล่าวว่าได้นำกำลังรวมกับเจ้าหน้าที่จังหวัดระนอง พี่น้องชาวประมง ออกร่วมกันหาจุดที่ตอหม้ออยู่ เพื่อทำการผูกทุ่นขนาดใหญ่ เป็นสัญลักษณ์ให้เรือทุกประเภทได้ทราบ ไม่เข้าใกล้ตรงจุดดังกล่าวจนกว่าจะมีการแก้ในลำดับต่อไป
นาวาตรี ก้องคชา วันนี้เราร่วมกันออกหาจุดที่ตั้งของตอหม้อปูนใต้น้ำ ซึ่งเริ่มจากการใช้เรือลากเชือกเพื่อหาจุด เมื่อพบตอให้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ดำน้ำลงไปใต้น้ำ เพื่อทำการผูกเชือกกับตอหม้อ จากนั้นบรรทุกทุ่นลอยขนาดใหญ่ มาผูกเพื่อให้ผู้ขับเรือทุกประเภทได้ทราบ ซึ่งนอกจากจะเป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้น การที่มีทุ่นดังกล่าวยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเรือนักท่องเที่ยวทุกประเภท ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวว่าจะมีวิธีการใดที่จะทำลายหรือนำตอหม้อขึ้นจากใต้ทะเล เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำ หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการประชุมหารือกันอีกครั้ง
