นครพนม – วันที่ 19 เมษายน 2562 ที่ค่ายพระยอดเมืองขวาง มณฑลทหารบกที่ 210 ตำบลกุรุคุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม พลตรี ปราโมทย์ นาคจันทึก ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ข้าราชการบำนาญและครอบครัว ตลอดจนผู้ที่พักอาศัยอยู่ในค่ายพระยอดเมืองขวาง และลูกหลานที่เป็นเชื้อสายของพระยอดเมืองขวางที่เดินทางมาจากจังหวัดนครสรรค์และจังหวัดมหาสารคาม ประกอบพิธีบวงสรวงศาลปู่พระยอดเมืองขวาง สักการะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ วางพวงมาลาสักการะอนุสาวรีย์พระยอดเมืองขวางเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนที่จะร่วมกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ เพื่ออุทิศกุศลแด่พระยอดเมืองขวางและเหล่าทหารกล้าผู้วายชน ที่ได้เสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา มณฑลทหารบกที่ 210 ครบรอบปีที่ 46
สำหรับค่ายพระยอดเมืองขวางนั้น เดิมชื่อว่า ค่ายนาโพธิ์ แต่ด้วยเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้น คือมีฟ้าผ่าลงมาตรงกลางป้ายที่เขียนว่าค่ายนาโพธิ์ เป็นเหตุให้ป้ายแยกออกเป็น 2 ซีก แม้ทำป้ายมาเปลี่ยนใหม่ก็เกิดเหตุเช่นเดิมอีก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จึงทรงพระราชทานนามใหม่ว่า ค่ายพระยอดเมืองขวาง ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้มีนายทหารยศพลเอก ได้ฝันเห็นชายใส่ชุดไทยเหมือนคนในรัชกาลที่ 5 มีดาบ มีกระบี่ ใส่หมวกบานอันใหญ่มาเข้าฝัน ขอให้ตั้งศาลให้ด้วยเนื่องจากวิญญาณไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ต้องเร่ร่อนไปมาระหว่างสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและค่ายพระยอดเมืองขวาง ทั้งขอให้อัญเชิญดวงวิญญาณมาด้วย จึงกลายเป็นที่มาของศาลปู่พระยอดเมืองขวาง ที่เหล่าทหารในสังกัดค่ายพระยอดเมืองขวาง ตลอดจนประชาชนที่อยู่รอบค่ายให้ความเคารพนับถือ และมักจะมากราบไหว้ขอพรอยู่เสมอๆ
ส่วนพระยอดเมืองขวางนั้น เป็นข้าราชการในรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองชายพระราชอาณาเขต คือ เมืองคำม่วน และได้ปฏิบัติภารกิจด้วยความรักชาติ ทำการป้องกันอธิปไตยดินแดนไทย จนเป็นเหตุให้คนของชาติผู้ถูกรุกรานถึงแก่ความตาย รัฐบาลของชาตินั้นจึงได้กล่าวฟ้องร้อง และเรียกร้องให้เอาตัวพระยอดเมืองขวางขึ้นศาล เพื่อพิจารณาความผิดและลงโทษคดี ซึ่งเนื้อแท้เป็นคดีอาญาฆ่าคนและทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสธรรมดา แต่ตอนหลังได้กลายเป็นคดีความระหว่างประเทศ นอกจากจะพิจารณาคดีในศาลแล้ว ยังต้องมีการเจรจาทางการทูตระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลฝรั่งเศส จนเป็นเหตุให้พระยอดเมืองขวางถูกพิจารณาลงโทษในที่สุด
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: