พายุฤดูร้อนหอบลูกเห็บถล่มพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ สำรวจเบื้องต้นได้รับความเสียหาย 8 อำเภอ บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายยับเยิน 227 หลัง ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการด่วน ให้นายอำเภอ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้นำท้องถิ่นเร่งสำรวจความเสียหาย และบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบภัย พร้อมเตือนอันตรายจากพายุลมแรง และฟ้าผ่าขณะเกิดฝนตก ฟ้าคะนอง
วันที่ 20 เมษายน 2562 ผู้สื่อข่าวจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานว่า เมื่อเวลา 21.30 น. ของวันที่ 19 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุพายุฤดูร้อน พัดบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ความแรงของพายุ ได้หอบลูกเห็บขนาดหัวแม่มือ ตกลงมาอย่างหนัก พร้อมกับเกิดพายุหมุนพัดต้นไม้ อาคารบ้านเรือน ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก หลังเกิดเหตุ นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.กาฬสินธุ์ ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ในการสำรวจความเสียหาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงอากาศวิปริต เปลี่ยนผ่านจากฤดูแล้งสู่ต้นฤดูฝน ที่จะเกิดภัยธรรมชาติคือพายุฤดูร้อนขึ้นได้ตลอดเวลา
โดยล่าสุด นายวีระศักดิ์ ศรีโสภา รองผวจ.กาฬสินธุ์ นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ปลัด จ.กาฬสินธุ์ นางพวงเพ็ญ จันทร์เพชร ผู้แทน ปภ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่ อ.กมลาไสย ซึ่งได้รับความเสียหายเป็นรอบที่สอง หลังจากเคยเกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มมาแล้วครั้งแรก เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา จากการสำรวจ พื้นที่ ต.กมลาไสย และ ต.หนองแปน รวม 17 หลัง ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านสำรวจความเสียหายเพิ่มเติมและให้นำจิตอาสาลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น
ขณะที่ นายเอกพงษ์ ศรีโคตร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย จิตอาสา ได้สำรวจความเสียหาย และให้กำลังใจชาวบ้านในเขตพื้นที่ จากการสำรวจเบื้องต้นเสียหาย 80 หลังคา ทั้งนี้ หลังสำรวจได้รายงานความเสียหายต่อฝ่ายปกครอง และ ปภ. เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัยตามลำดับต่อไป
นายเสถียร ดูระภักดิ์ อายุ 59 ปี ชาวบ้านโนนสวาง หมู่ 14 บ้านเลขที่ 237 ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 19 เมษายน 2562 เวลาประมาณ 20.30 น. ขณะที่ตนและทุกคนในครอบครัวกำลังเตรียมตัวเข้านอนที่ชั้นล่าง ก็ได้ยินเสียงเหมือนวัตถุของแข็งตกใส่หลังคาบ้านเป็นระยะ ก่อนที่จะเห็นลูกเห็บก้อนขนาดนิ้วหัวแม่มือ และบางก้อนโตขนาดเท่าไข่ไก่ตกหล่น และกระจัดกระจายเข้ามาภายในตัวบ้านนานประมาณ 10 นาที ก่อนที่จะมีลมกระโชกแรงปะทะตัวบ้านจนสั่นสะเทือน ทุกคนตกใจวิ่งหาที่หลบภัย จากนั้นได้ยินหลังคาบ้านลั่นดังเอี๊ยดอ๊าด เรือนทั้งหลังโยกไปโยกมา และเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อนก็เกิดขึ้น เมื่อความแรงของพายุหมุนได้พัดหลังตาสังกะสีปลิวไปตกหลายสิบเมตร
“ทั้งนี้ ได้เกิดพายุหมุนประมาณ 20 นาที และหลังพายุสงบ ได้สำรวจความเสียหาย พบว่านอกจากบ้านของตนจะเสียหาย โดยหลังคาบ้านถูฏความแรงของพายุพัดไปทั้งแถบแล้ว ยังมีบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ นับว่าน่ากลัวมาก เด็กๆพากันร้องไห้ด้วยความเสียขวัญ เกิดมาเพิ่งจะพบเห็นเป็นครั้งแรก จึงอยากเรียกร้องให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือ โดยจัดอุปกรณ์ซ่อมแซมที่พักอาศัยด้วย เพราะหากเกิดพายุมาอีก ก็จะไม่มีที่หลบฝน” นายเสถียรกล่าว
อย่างไรก็ตาม จาก ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่ม พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ในครั้งนี้ จากการสำรวจเบื้องต้น ได้รับผลกระทบหนัก 8 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองกาฬสินธุ์, อ.กมลาไสย, อ.ฆ้องชัย, อ.นามน, อ.คำม่วง, อ.สมเด็จ, อ.ดอนจาน และ อ.สหัสขันธ์ บ้านเรือนราษฎรเสียหายหนัก 277 หลังคาเรือน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย โดยนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ ยังได้กำชับฝ่ายปกครอง ส่วนราชการ องค์กรปกครองท้องถิ่น เร่งสำรวจและให้ความช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับราษฎรที่ประสบภัย พร้อมกับประกาศเตือนอันตรายที่จะเกิดจากพายุ ลมแรง รวมทั้งอันตรายจากฟ้าผ่า ขณะเกิดฝนตกฟ้าคะนองในช่วงนี้ด้วย โดยให้ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด
