X

รอให้ตายก่อนรึไง!! ระบาดหนักชิคุนกุนยา ไร้ฉีดพ่นหวั่นระบาดหนัก พบกว่า 20

ชุมพร-รอให้ตายก่อนรึไง!! ระบาดหนักชิคุนกุนยา ไร้ฉีดพ่นหวั่นระบาดหนัก พบกว่า 20

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 22 เมษายน 62 นางสาวพรรณีลักษณา ไกรมา อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 226 ม.16 ต.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมาตนเองพร้อมครอบครัวซึ่งมีพ่อแม่และพี่ชาย ได้เดินทางไปกรุงเทพมหานครเพื่อไปเยี่ยมญาติ ระหว่างทางตนเองได้เกิดอาการปวดเมื่อยตามตัว โดยเฉพาะตามข้อกระดูกอย่างรุนแรง นอกจากนั้นยังมีอาการตัวร้อน เป็นไข้ตามมาอีกด้วย

นางสาวพรรณีลักษณา กล่าวว่า จึงได้แวะนำตัวเข้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถวเพชรบุรี ซึ่งทางแพทย์ได้ให้แอดมิด รักษาตัวเนื่องจากพบว่าเป็นไข้สูงและคาดน่าจะเป็นไข้เลือดออก พร้อมทั้งได้ทำการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาเชื้อ ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 2 วัน จนมาทราบผลว่าตนเองมีเกล็ดเลือดต่ำ ไข้สูง ซึ่งเป็นอาการของโรคชิคุนกุนยา แพทย์ได้แจ้งอีกว่าจำเป็นจะต้องทำการรักษาผู้ป่วยตามอาการ คือหากไข้สูงก็จะกินยาลดไข้พร้อมเช็ดตัว หากปวดตามข้อกระดูกก็ต้องกินยาแก้ปวด นอกจากนี้ทางแพทย์ได้แนะนำให้ตนเองต้องพักผ่อนให้มากและมั่นออกกำลังกายควบคู่ไปกับดื่มน้ำให้มาก

นางสาวพรรณีลักษณา กล่าวต่อว่า ตนเองแปลกใจว่าทำไมเป็นโรคนี้ ทางแพทย์ จึงต้องบอกว่าให้รักษาตามอาการ ทำไมไม่รักษาให้หายขาดไปเลยเหมือนกับโรคหรือไข้อื่นๆ คำว่ารักษาตามอาการ ทำให้ตนต้องคิดมาก และยังทำให้คนรอบข้าง โดยเฉพาะเพื่อนบ้าน มองตนเองเป็นตัวน่ารังเกียจ เป็นตัวนำโรคสู่ผู้อื่น และยิ่งเมื่อสองวันที่ผ่านมาตามตัวของตนเองเป็นผื่นเม็ดขึ้นเต็มตัว ยิ่งทำให้คนอื่นมองในแง่ไม่ดีไปด้วย ทั้งที่ตนเองเป็นเพียงไข้ชิคุนกุนยาเท่านั้น

ด้านนายธวัฒชัย ไกรมาก อายุ 57 ปี พ่อของนางสาวพรรณีลักษณา กล่าวว่า ตนเองไม่สบายใจหลังจากที่ลูกสาวเป็นไข้ชิคุนกุนย่า เกรงว่าโรคนี้ซึ่งมียุงลาย ซึ่งเป็นพาหะนำโรคจะไปกัดคนอื่น จนแพร่ระบาดขยายวงกว้างไปกว่านี้  นายธวัฒชัย กล่าวต่อว่า ตนเองได้ไปแจ้งให้ทางเทศบาลเนินสันติ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบหน่วยงานแรก ให้ได้ทราบว่าลูกสาวเป็นไข้ดังกล่าว แต่ทางเทศบาลกลับนิ่งเฉย ไม่ดำเนินการอะไร นอกจากนี้สำนักงานสาธารณสุขอำเภอท่าแซะ ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านพักของตนเองก็รับทราบเช่นกัน และมีข้อมูลอีกด้วยว่ามีการแพร่ระบาดและมีผู้ป่วยจากโรคชิคุนกุนยา ในพื้นที่ ม.15 ม.6 และ ม.5 ต.ท่าแซะ จ.ชุมพร แล้วกว่า 20 ราย แต่กลับนิ่งเฉยไปอีกหน่วยงาน ตนจึงต้องร้องต่อสื่อเพื่อให้เป็นกระบอกเสียงกระตุ้นให้หน่วยงานอย่าปล่อยเกียร์ว่าง เร่งมาดำเนินการฉีดพ่นหมอกควัน และเร่งประชาสัมพันธ์ให้ ชาวบ้านได้รู้เพื่อเป็นการป้อกันและควบคุมไม่ให้โรคได้แพร่ขยายออกไปสูงชุมชนตำบลอื่นต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน