X

อาคารจุดผ่อนปรน ไทย-ลาว งบกว่า 4 ล้านทิ้งเป็นซากประจาน ชาวบ้านค้านไม่ฟัง

นครพนม – ชาวบ้านในพื้นที่ ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.นครพนม  นำโดย นายพินิจ หมื่นลูกท้าว อายุ 44 ปี  กำนันตำบลบ้านกลาง  นายพงศ์พันธ์ คำมั่น อายุ 60 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านหนาด ต.บ้านกลาง พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้าน ออกมาเรียกร้องผ่านสื่อ ให้มีการตรวจสอบ และหาทางแก้ไข กรณีจังหวัดนครพนม ได้จัดสรรงบประมาณก่อสร้างอาคารด่านจุดผ่อนปรน  จำนวน 1 หลัง  พร้อมอาคารคลังเก็บสินค้าอีก 2 หลัง ใช้งบประมาณเกือบ 4 ล้านบาท  ซึ่งได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2558  ที่บริเวณริมเขื่อนแม่น้ำโขง ตรงตลาดจุดผ่อนปรน บ้านหนาด ต.บ้านกลาง  ซึ่งเปิดเป็นตลาดการค้าไทยลาว ที่มีการเดินทางมาซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า เครื่องอุปโภคบริโภค ระหว่างชาวไทย กับ ชาว สปป.ลาว อยู่ตรงกันข้ามบ้านปากเป่ง เมืองหนองบก แขวงคำม่วน สปป.ลาว โดยระเบียบกระทรวงมหาดไทย  กำหนดเปิดทำการค้าขาย ทุกวันอังคาร กับวันศุกร์ ของสัปดาห์ 

โดยเมื่อปี 2558  ได้มีการอนุมัติงบประมาณก่อสร้างอาคารจุดผ่อนปรนขึ้นใหม่ จำนวน 1 หลัง เพื่อเป็นสถานที่ทำงานของเจ้าหน้าที่จากหน่วยงาน เกี่ยวข้อง ในการดูแล บริการ ตรวจสอบ การเดินทางข้ามไปมาของพี่น้องชาวลาว   และมีอาคารคลังสินค้าอีก 2 หลัง ที่เตรียมพร้อมใช้เป็นคลังสินค้า แต่หลังก่อสร้างเสร็จได้รับผลกระทบ จากกรณีเกิดน้ำท่วมสูงระดับประมาณ 1.50 เมตร ทำให้น้ำโขงล้นตลิ่ง   ทั้งตัวอาคาร และวัสดุอุปกรณ์ในสำนักงาน ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด

กระทั่งปี 2561 ได้เกิดน้ำโขงล้นตลิ่งท่วมซ้ำอีก  ตัวอาคารทั้ง 3 หลัง ความเสียหายเพิ่มอย่างหนัก ทั้งประตูกระจก ห้องน้ำ อุปกรณ์สำนักงานชำรุดใช้งานไม่ได้ จากการตรวจสอบ พบดินโคลนเข้าไปทับถม ในอาคารดังกล่าว มีความหนากว่า 30 เซนติเมตร และไม่สามารถใช้งานได้ กลายเป็นซากปรักหักพัง ใช้งานไม่คุ้มค่า สร้างความหดหู่ ให้กับผู้พบเห็น ซึ่งทางชาวบ้าน เคยได้เรียกร้องให้ ทางอำเภอเมืองนครพนม และจังหวัดนครพนม รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง มาตรวจสอบแก้ไข แต่ติดปัญหาไม่มีงบประมาณปรับปรุงซ่อมแซม เนื่องจากต้องแก้ไข ด้วยการยกระดับตัวอาคารขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 2 เมตร

ทั้งนี้ นายพงศ์พันธ์ คำมั่น อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านหนาด ต.บ้านกลาง ระบุว่าอาคารจุดผ่อนปรนตลาดไทยลาว บ้านหนาด ต.บ้านกลาง ได้สร้างเสร็จตั้งแต่ปี 2558  เดือนสิงหาคมปีเดียวกันเกิดผลกระทบน้ำโขงล้นตลิ่งท่วมระดับน้ำสูงกว่า 1.50 เมตร ชาวบ้าน ต้องช่วยกันขนย้าย อุปกรณ์ สำนักงาน ถอดแอร์ที่ติดตั้ง ออก แต่ก็ยังมีบางส่วนได้รับความเสียหาย เพราะไม่สามารถหาทางป้องกันได้ ปัญหาเกิดจากการก่อสร้างตั้งแต่แรก ที่ไม่มีการออกแบบยกระดับให้สูง เพราะจุดก่อสร้างอยู่ต่ำกว่าตลิ่ง พอน้ำโขงล้นเอ่อทำให้น้ำไหลท่วมอาคาร  ล่าสุดเมื่อปี 2561 ช่วงเดือนกรกฎาคม เกิดน้ำท่วมหนักอีกรอบ เป็นเหตุให้อาคาร ทั้ง 3 หลัง  พังเสียหายยับเยิน เคยมีหน่วยงานเกี่ยวข้อง ระดับอำเภอ และจังหวัด มาตรวจสอบ แต่ไม่มีงบประมาณซ่อมแซม สุดท้ายต้องปล่อยทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์สถาน  ถึงมีงบซ่อมแซม แต่สุดท้ายเชื่อว่าน้ำท่วมอีก เพราะการก่อสร้างออกแบบผิดตั้งแต่ต้น

นายพงศ์พันธ์ คำมั่น กล่าวอีกว่า  ที่สำคัญก่อนก่อสร้าง ชาวบ้านเคยคัดค้าน ว่า การออกแบบไม่เหมาะสม ไม่มีการสำรวจความคิดเห็นชาวบ้าน ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา สุดท้ายเสียงของชาวบ้านไร้ประโยชน์ รั้นจะสร้างสุดท้ายก็ใช้งานไม่ได้พัง เสียดายงบประมาณก่อสร้าง หากจะจัดสรรงบมาซ่อม เชื่อว่าไม่คุ้ม หากไม่ยกระดับตัวอาคารขึ้น และต้องใช้งบประมาณสูง ไม่แตกต่างจากสร้างใหม่  ฝากไปยังหน่วยงานรับผิดชอบ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม รวมถึง สตง.มาตรวจสอบ หาตัวคนมารับผิดชอบ เพราะเป็นเงินภาษีของประชาชน  “เงินเกือบ 4 ล้านบาท สร้างแล้วต้องถูกปล่อยทิ้งร้าง เห็นแล้วหดหู่”นายพงศ์พันธุ์กล่าว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน