นครพนม – วันที่ 13 ก.พ.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชิตชัย อินทรพาณิชย์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครพนม ชี้แจงกรณีมีบุคคลคณะหนึ่งอ้างว่ามีประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ในงบกลุ่มจังหวัดปรับปรุงพัฒนาวางท่อระบายน้ำบนผิวจราจรถนนสุนทรวิจิตร ตลอดแนวแม่น้ำโขง
เริ่มจากวัดนักบุญอันนาผ่านจวนผู้ว่าราชการหลังเก่าและปัจจุบัน สถานีตำรวจ บ้านพักผู้พิพากษา หอนาฬิกา ตลาดอินโดจีน ซึ่งเป็นช่วงที่หนึ่ง ส่วนช่วงที่สองจากแลนด์มาร์คพญาศรีสัตตนาคราช จนถึงวัดพระอินทร์แปลง รวมความยาว 4,894 เมตร งบประมาณ 39 ล้านบาท อยู่ในความดูแลของสำนักงานโยธาธิการฯ มี หจก. สง่านครพนม เป็นผู้รับจ้างนั้น
นายชิตชัยฯกล่าวว่า ท่อระบายน้ำเดิมมีตั้งแต่เป็นเขื่อนเก่า รับน้ำไม่เพียงพอต้องวางท่อระบายน้ำใหม่ เพื่อรองรับการปรับปรุงถนนไปในตัว ซึ่งฝาท่อเดิมมีขนาด 50 ซม. การระบายจึงมีปัญหา ถ้าสังเกตก็จะเห็นว่าบริเวณถนนสุนทรวิจิตรแถวบ้านพักผู้พิพากษาถึงวัดนักบุญอันนา(โบสถ์คริสต์) ผิวถนนจะชำรุดเร็วเพราะมีน้ำท่วมขัง เนื่องจากแถวนี้ไม่มีท่อระบายน้ำ มีแต่ช่องระบายธรรมชาติเล็กๆ ถนนก็คับแคบมีแค่สองเลนและไม่มีไหล่ทาง
ข่าวน่าสนใจ:
ทั้งที่เขตทางนั้นยังมีเยอะอยู่ หากวางท่อเสร็จก็ขยายผิวจราจรด้วย ทำให้ในอนาคตผิวจราจรแถวนั้นจะเพิ่มมากขึ้นอีกประมาณ 2-2.50 เมตร “นครพนมกำลังพัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยว เวลาปกติการจราจรก็คับคั่งอยู่แล้ว ถ้าเป็นเทศกาลแย่หนัก รถแทบจะเลี่ยงกันไม่พ้น ทำเสร็จก็ขยายผิวถนนสะดวกยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้นายชิตชัยได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนแรกที่ขุดผิวจราจรจากวัดนักบุญอันนา ซึ่งเป็นชุมชนเดิมของชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม ถูกต่อต้านอย่างหนัก แต่เมื่อสร้างไปได้สักพัก เริ่มเข้าใจและมีประชาชนอีกฝั่งหนึ่งก็ร้องขอเหมือนกันว่า”ทำไมสร้างแต่ฝั่งโน้นฝั่งนี้ก็อยากได้เหมือนกัน” ก็มีหนังสือผ่านมาทางนายชิดชัย วิพัทนะพร ประธานสภาเทศบาลเมืองนครพนม พร้อมรายชื่อของชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่บริเวณถนนสุนทรวิจิตร จำนวน 30 ราย ตนก็ส่งหนังสือดังกล่าวต่อไปถึงนายกเทศบาลเมืองนครพนมพิจารณาแล้ว “ ถ้ามีเงินเหลือซึ่งก็อาจจะใช้งบนี้ไปแก้ปัญหาแต่คาดการณ์ว่าจะเหลืออยู่ ทำให้การระบายน้ำทั้งฝั่งซ้ายและขวาของชาวบ้านก็จะได้ประโยชน์กันทั่วหน้า สมเป็นเมืองน่าอยู่มีความสะอาดเรียบร้อยเชิญชวนคนมาท่องเที่ยวบ้านเราได้” นายชิตชัยกล่าว
ขณะเดียวกันมีสื่อออกทางโซเซียลว่า มีการก่อสร้างวางท่อระบายน้ำช่วงหน้าวัดโพธิ์ศรีถึงวัดพระอินทร์แปลง เกิดถนนทรุดตัวเป็นทางยาว โดยเฉพาะหน้าวัดกลางและอาจจะเกิดเขื่อนยุบตัวในอนาคต นายสง่า แสนทวีสุข เจ้าของ หจก.สง่านครพนม ผู้รับจ้าง เปิดเผยว่าเป็นคำพูดของคนที่ไม่รู้เรื่องในการก่อสร้าง ตนเปิดกิจการมากว่า 50 ปี รู้ถึงปัญหาอันไหนก่อนและหลัง พร้อมกับพาผู้สื่อข่าวชี้ตามจุดที่โด่งดังในโซเซียล พร้อมกับอธิบายว่าบริเวณดังกล่าวเป็นแนวเขื่อนเก่าที่ก่อสร้างเมื่อปี 2534 มีสเตย์เป็นเหล็กเกาะยึดถึง 3 ช่วง เพราะมีการสร้างขยายเพิ่ม 3 ครั้ง ทุกๆช่วงจะมีเสากั้นเป็นแนวเสมอ ประกอบกับความโชคดีมีดินตะกอนที่ไหลมากองรวมกันกลายเป็นดินงอก จึงเสมือนกำแพงยักษ์ป้องกันตลิ่งหรือเขื่อนพังไปในตัว การเชื่อมต่อสเตย์ในปัจจุบันแทบไม่มีความหมายแต่เพื่อป้องกันข้อครหาในอนาคต เพราะมีบางคนจ้องจะโจมตีตนจึงเชื่อมต่อสเตย์เข้าด้วยกัน อีกอย่างพวกคณะกลุ่มนี้ไม่รู้หลักวิชาช่างเมื่อออกสื่อทางโซเซียล ทำให้ประชาชนเชื่อว่าการก่อสร้างจะทำให้เขื่อนทรุดตัว สร้างความเสียหายแก่จังหวัดเป็นส่วนรวม
นายสง่ากล่าวต่อว่า นอกจากนี้ก่อนจะมีการก่อสร้างปรับปรุงท่อระบายน้ำ ทางโยธาฯได้เชิญวิศวกรรมอาวุโสซึ่งเป็นคนในพื้นที่ ร่วมให้การปรึกษาและชี้แนะ จนมีผลสรุปว่าสมควรสร้างบริเวณดังกล่าว โดยมีการระบายน้ำจากที่สูงลงไปที่ต่ำตรงหน้าวัดโพธิ์ศรีใกล้กับแลนด์มาร์คพญาศรีสัตตนาคราช พร้อมกันนี้ตนได้ว่าจ้างกองร้อยน้ำหวาน ซึ่งเป็นตำรวจชุมชนจาก บก.ภ.จว.นครพนม ที่ได้รับการฝึกอย่างถูกวิธี มาคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร 4 คน ให้ค่าจ้างคนละ 400 บาท/วัน เป็นการช่วยเหลือครอบครัวของพวกเขา
ต่อมาเวลา 17.30 น. วันเดียวกัน นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.ฯ รุดไปตรวจบริเวณหน้าวัดกลาง ที่สื่อโซเซียลระบุว่าเป็นจุดอันตราย มี นายชิตชัย อินทรพาณิชย์ โยธาฯ นายโชคดี มังคละคีรี รองนายกเทศบาลเมืองนครพนม ร่วมลงพื้นที่สำรวจ ซึ่งพบบริเวณที่ยุบตัวของถนนเป็นแนวสันเขื่อนเดิม ที่มีเสากั้นเป็นแนวตลอด จะไม่มีการยุบตัวเข้าไปในผิวถนนแน่นอน แต่เพื่อความปลอดภัย ผวจ.ฯ สั่งให้มีแสงไฟแสดงเขตการก่อสร้าง และต้องให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน ต้องคืนถนนสู่สภาพปกติ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: