ลุงชาวสวนมะพร้าว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ ออกไปตัดต้นยูคาลิปตัสสูง 20 เมตรหลังบ้านเพราะกลัวล้มทับบ้านพัง แต่พลาดต้นไม้ที่ตัดกลับทับตัวเองเสียชีวิตคาที่ (ข่าว/ภาพ พิมพร อยู่รุ่ง)
วันที่ 29 เมษายน 2562 ร.ต.ท.นัฐพล ทะเลน้อย รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.ปราณบุรี รับแจ้งเหตุชายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุต้นไม้ล้มทับ ที่บ้านเลขที่ 27/4 ม.4 บ้านลุ่มโพธิ์ ต.ปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี
โดยที่เกิดเหตุพบว่า เป็นบ้านสวน มีแปลงสาธิตมะพร้าวอินทรีย์และพืชผลทางเกษตรที่ไม่ใช้สารเคมีของหมู่บ้าน มีนายมงคล กลิ่นหอม ผู้ใหญ่บ้านหมู่4 บ้านลุ่มโพธิ์ พาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ บริเวณหลังบ้านดังกล่าว ซึ่งผู้เสียชีวิตรายงานนี้คือ นายอิง ทองแท้ อายุ 79 ปี นอนเสียชีวิตโดยถูกต้นยูคาลิปตัสอายุกว่า 10 ปี สูงประมาณ 20 เมตร ล้มทับ โดยลำต้นฟาดเข้าที่ศีรษะจนท้ายทอยยุบเป็นแผลลึก สวมชุดสำหรับทำสวนและสวมถุงมือ ท่ามกลางความเสียใจของญาติและเพื่อนบ้านที่ทราบข่าว
นางพเยาว์ ทองแท้ อายุ 66 ปี ภรรยานายอิง เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเช้ามืดก่อนออกจากบ้านเพื่อนำกล้วยหอมไปขายที่ตลาดสดปราณบุรี นายอิงสามียังนอนอยู่บนบ้าน แต่ก่อนหน้านี้ได้ยินพูดว่า ช่วงนี้ลมแรงกลัวต้นไม้ล้มทับบ้านพัง แต่ไม่ทันได้สอบถามว่าต้นไม้ต้นไหน กระทั่งช่วงสายวันนี้กลับจากตลาดเข้ามาที่บ้าน มองหาสามีไม่เจอ ได้ตะโกนร้องเรียกหาเพื่อจะให้มากินข้าว เพราะตามปกติจะชอบเข้าสวนดูต้นไม้ แต่ร้องเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงเดินตามหา เมื่อมาถึงหลังบ้าน เห็นต้นยูคาลิปตัสล้ม จึงมองไปที่โค่นต้นไม้ เห็นร่างสามีนอนแน่นิ่งอยู่มีต้นไม้ทับที่ศีรษะ รู้สึกตกใจมากจะยกออกก็ยกไม่ไหว จึงรีบโทรศัพท์บอกลูกชายที่อยู่บ้านใกล้เคียง ให้มาดูพ่อ แต่ก็ไม่ทันการณ์ สามีเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว
ทางด้านนายมงคล กลิ่นหอม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านลุ่มโพธิ์ กล่าวว่า จากการดูที่เกิดเหตุ พบว่ามีร่องรอยการเบียดของต้นยูคาลิปตัสอีกต้นที่ยังไม่ถูกตัด จึงคาดว่า ขณะที่ลุงอิงตัดต้นไม้อยู่นั้น ต้นไม้ต้นใหญ่ที่ตัดได้หักไปเบียดกับต้นเล็กอีกต้นที่อยู่ใกล้กัน แล้วดีดเข้าหาลุงอิงโดยที่ไม่ทันตั้งตัวทำให้ต้นไม้ฟาดเข้าที่ศีรษะจนล้มไปกองกับพื้นเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้นำส่งศพชันสูตรที่โรงพยาบาลปราณบุรี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
