กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 ก.พ. ตรวจวัดได้ระหว่าง 52 – 78 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินเกณฑ์มาตรฐาน 6 พื้นที่ คือ เขตบางนา เขตวังทองหลาง ริมถนนพระราม4 ริมถนนอินทรพิทักษ์ ริมถนนลาดพร้าว และริมถนนพญาไท
ทั้งนี้ สภาพอากาศที่ไม่เกินมาตรฐานต้องไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มไม่เปลี่ยนปลงมากนัก ยกเว้นบริเวณริมถนนอินทรพิทักษ์ มีแนวโน้มลดลง
สำหรับรายงานและสถานการณ์คุณภาพอากาศ สามารถติดตามได้ ที่นี่
นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่าการตรวจวัดค่า PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศที่กรมอุตุนิยมวิทยา เขตบางนา เมื่อของวันที่ 14 ก.พ. 2561 พบว่ามีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 61 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ภาวะเช่นนี้เกิดขึ้นเนื่องจากในช่วงนี้พื้นที่กรุงเทพมหานครมีความกดอากาศสูง สภาพอากาศนิ่ง ลมสงบ ทำให้การระบายอากาศไม่ดี จึงเกิดการสะสมตัวของฝุ่นละออง ส่งผลให้ปริมาณฝุ่นที่ตรวจวัดได้มีปริมาณสูงเกินมาตรฐาน
สำหรับ กรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้ออก “15 มาตรการลด 2 มาตรการเพิ่ม” เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละออง
มาตรการลดมลพิษจากการจราจร ได้แก่
1) เข้มงวดการตรวจจับรถยนต์ควันดำ
2) เข้มงวดตรวจวัดมลพิษจากรถราชการสังกัดกรุงเทพมหานครทุกคัน
3) ตรวจสอบรถบรรทุกหรือรถขนย้ายวัสดุให้มีผ้าใบปิดคลุมให้มิดชิด
4) ประสานจัดการจราจรให้คล่องตัว
5) รณรงค์ไม่ขับช่วยดับเครื่อง
6) ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชน
7) รณรงค์ให้ประชาชนหมั่นดูแลรักษาเครื่องยนต์
มาตรการลดฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง ได้แก่
8)ควบคุมบริเวณก่อสร้างให้มีรั้วทึบโดยรอบ
9) คุมเข้มให้มีผ้าใบปิดคลุมการก่อสร้างให้มิดชิด
10) กำชับให้มีการล้างล้อรถก่อนออกจากสถานที่ก่อสร้าง
11) ฉีดน้ำทำความสะอาดพื้นที่ก่อสร้างทุกวัน
12) ห้ามทำการในยามวิกาล (18.00 – 06.00 น.)
มาตรการลดฝุ่นละอองจากการเผาและกิจกรรมต่างๆ ได้แก่
13) ควบคุมไม่ให้มีการเผาขยะและเผาในที่โล่ง
14) ควบคุมดูแลกิจการผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ
15) รณรงค์ให้ผู้จำหน่ายอาหารปิ้งย่างริมบาทวิถีใช้เตาลดมลพิษ
มาตรการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและความถี่ในการทำความสะอาดที่สาธารณะ
1) เพิ่มการปลูกต้นไม้บริเวณริมถนนและเกาะกลาง และ 2) เพิ่มความถี่ในการล้างถนนและดูดฝุ่นถนน
