รอง ผบ.ตร.ยืนยัน ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ว่านายเปรมชัย เป็นคนยิงเสือดำหรือไม่ เพราะผู้ร่วมกระทำผิดทุกคนเจออัตราโทษหนักเท่ากันหมด
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มั่นใจว่า อัยการจะมีความเห็นสั่งฟ้องคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ซีอีโอบริษัทอิตาเลียนไทย จำกัด (มหาชน) กับพวก ที่เข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก
ซึ่งตามความเห็นส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ว่า นายเปรมชัยเป็นคนยิงเสือดำหรือไม่ เพราะตามกฏหมาย เพียงแค่ลักลอบนำอาวุธปืนขึ้นไปบนอุทยานฯ ก็ถือว่ามีความผิดแล้ว และผู้ต้องหาทั้ง 4 คน มีความผิดร่วมกันอย่างชัดเจน และจะมีอัตราโทษเท่ากันหมด ไม่ว่าใครจะเป็นคนยิงเสือดำก็ตาม โดยอัตราโทษสูงสุดในคดีที่นายเปรมชัยกับพวก ถูกแจ้งรวม 10 ข้อหา โทษสูงสุด คือ จำคุก 10 ปี
ข่าวน่าสนใจ:
- พ่อค้ายาเกมส์ ซุกยาบ้าในกล่องนมมิดชิด รอส่งพ่อค้ารายย่อย ไม่รู้ตร.ซุ่มกวาดล้าง ถูกรวบพร้อมของกลาง 70 เม็ด
- ตร.น้ำกระบี่ บุกรวบ 3 ลูกเรือประมง ยึดยาบ้า พบมั่วสุมเสพ ก่อนออกจับปลา
- จนมุมเพราะไก่ชน!! ตำรวจบางละมุงวางแผนเหนือเมฆ หลอกแก๊งค์ค้ายานรกมาซื้อไก่ชน ก่อนตามรวบยกแก๊งค์ ยึดยาบ้าแสนเม็ด - ไอซ์ 1 กก. พร้อมรถ 2 คัน…
- มหกรรมอาหารทะเลพื้นบ้านประมงเรือเล็กระยอง อาหารทะเลสดๆ-สินค้าชุมชน ชมคอนเสิร์ตศิลปินชื่อดัง
ส่วนกรณีที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ นัดให้นายเปรมชัยมารายงานตัวในวันที่ 26 มีนาคมนี้ ไม่ใช่การขอเลื่อนรายงานตัว แต่ศาลให้รายงานตัวผัดฟ้องในครั้งที่ 4 เลย เพราะศาลจังหวัดทองผาภูมิอยู่ไกล เดินทางลำบาก แต่ถ้าวันที่ 26 มีนาคมนี้ ไม่มาตามนัด ก็จะถูกริบเงินประกันและออกหมายจับ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่านายเปรมชัยจะมารายงานตัวหรือไม่ แต่จากการตรวจสอบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยังไม่มีรายชื่อนายเปรมชัยเดินทางออกนอกประเทศ
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง เปิดเผยว่า ผลการตรวจพิสูจน์หาคราบเขม่าดินปืนในรถยนต์ของนายเปรมชัย ไม่พบคราบเขม่าดินปืน แต่ทราบว่าเป็นปืนลูกซอง และยิงตรงจุดสำคัญคือบริเวณหัวของเสือดำ ซึ่งสอดคล้องกับอาวุธปืนของนายเปรมชัย ขณะที่การตรวจสอบซากเสือดำ พบว่าถูกยิงด้วยปืนเข้าที่หัว และส่วนอื่นๆหลายนัด
สำหรับการตรวจสอบปืนและกระสุนปืนหลายรายการ ที่ตรวจค้นได้จากบ้านของนายเปรมชัย จะนำไปเทียบเคียงว่า เคยนำไปก่อเหตุในพื้นที่ไหนมาก่อนหรือไม่ โดยกองพิสูจน์หลักฐาน 7 ได้ประสานขอลูกกระสุนปืนไรเฟิลที่ยึดได้ ไปตรวจเทียบเคียงกับหัวกระสุนปืนไรเฟิลที่พบในซากช้างป่าที่ถูกยิง บริเวณอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อประมาณ 3-4 ปีก่อน ว่าเป็นกระบอกเดียวกันหรือไม่ คาดว่าจะรู้ผลภายใน 3 วัน
ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ยืนยันว่า สามารถตรวจสอบได้ แม้ว่าซากช้างตัวดังกล่าวจะไม่อยู่แล้ว เนื่องจากทุกครั้งที่ช้างป่าถูกยิง เจ้าหน้าที่จะเก็บลูกกระสุนไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งกรณีนี้ตำรวจเพียงสงสัย เพราะตรวจสอบว่าเป็นอาวุธที่มีขนาดเดียวกัน แต่ยังไม่มีข้อมูลว่านายเปรมชัยเดินทางไปในช่วงเวลาที่ช้างถูกยิงหรือไม่ จึงต้องพิสูจน์ทราบให้ชัดเจน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: