เพชรบูรณ์-กรมป่าไม้ตรียมส่งชุดพยัคฆ์ไพรเกาะติดคดีสร้างอาคารยักษ์รุกป่าเขาค้อหลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง ชี้หากมีหลักฐานเพิ่มเติ่มสามารถรื้อฟื้นคดีได้ใหม่ สั่งกำชับสำนักฯที่ 4 พิษณุโลกให้ดูคดีเก่าให้สำนวนรัดกุม ด้าน “ศรีสุวรรณ”ข้องใจสั่งไม่ฟ้องจ่อร้องอัยการสูงสุดและคณะกอ.ตรวจสอบ
วันที่ 17 กุมภาพันธุ์ 2561 ความคืบหน้ากรณีคณะเจ้าหน้าที่ทหาร ป่าไม้และฝ่ายปกครอง ตรวจสอบการก่อสร้างอาคารตึกขนาดยักษ์บนที่ดินรอส.บ้านส่งคุ้ม ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และอยู่ในเขตป่าสงวนที่กองทัพภาคที่ 3 ขอให้จากกรมป่าไม้ โดยพบผู้รับเหมาเร่งดำเนินการก่อสร้างโดยไม่ได้ขออนุญาตใช้พื้นที่และไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้าง ฝ่าฝืนประกาศอำเภอเขาค้อห้ามก่อสร้าง นอกจากนี้ยังพบว่าเป็นบริเวณที่เจาหน้าที่เคยจับกุมดำเนินคดีแต่อัยการสั่งไม่ฟ้อง จึงแจ้งให้หยุดก่อสร้างแต่ไม่มีการดำเนินคดี ล่าสุดนายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ทางกรมป่าไม้ให้ความสนใจและไม่เพิกเฉยโดยเตรียมจัดส่งชุดพยัคฆ์ไพรลงไปในพื้นที่ เพื่อหาหลักบานและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมในคดีนี้ และคงต้องมาดูว่าสำนวนสั่งไม่ฟ้องด้วยสาเหตุใด และที่บอกว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอก็ต้องไปดูว่าพยานหลักฐานอะไรที่ไม่เพียงพอ และมีช่องทางไหนที่จะทำให้พยานหลักฐานมีน้ำเพียงพอก็ต้องไปปิดจุดอ่อนตรงนี้
นายอรรถพลกล่าวว่า หากพบว่ามีความผิดจริงก็รื้อฟื้นคดีได้ อย่างไรก็ตามคดีนี้หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมจากเดิมก็สามารถจะไปรื้อฟื้นคดีได้อยู่แล้ว โดยข้อเท็จจริงพื้นที่บริเวณนี้ก็เป็นพื้นที่ของรัฐเพียงแต่ว่าการเอาผิดกับผู้ครอบครองยังไม่มีหลักฐาน ก็ต้องไปพิสูจน์ในเรื่องพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องว่าจะบ่งชี้ไปถึงการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาหรือเปล่า ส่วนที่ดินรอส.ทางราชการเป็นผู้อนุญาตให้ทำกิน ในเบื้องต้นเท่าที่ดูในสำนวนมีการนำหลักฐานที่ดิน รอส.ครอบครองอย่างต่อเนื่อง ก็ต้องไปพิสูจน์ว่ารอส.ที่ครอบครองที่ดินเป็นเจ้าของจริงหรือเปล่าหรือเป็นนอมินีหรือไม่จะต้องไปพิสูจน์กันตรงนี้
รองอธบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า ได้กำชับทางสำนักบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลกไปแล้ว ให้ไปดูในเรื่องคดีเก่าที่มีการดำเนินคดีแล้ว อะไรที่เป็นพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องสำนวนอะไรที่ยังไม่กระชับรัดกุม ให้ไปดูและทำรายละเอียดให้รัดกุมเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างในทางคดี อีกส่วนหากมีการก่อสร้างหรือมีการเข้าไปขยายพื้นที่หรือสร้างสิ่งปลูกสร้างเพิ่มเติมจากเดิม ให้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการเหล่านี้หยุดดำเนินการก่อน ไม่เช่นนั้นก็เหมือนกระทำผิดซ้ำสองและยังชี้หรือแสดงถึงเจตนาเพราะทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนไปแล้ว หากไม่สนใจจะมีผลต่อรูปคดีด้วยแล้วจะมาอ้างขาดเจตนาภายหลังไม่ได้ หลายคดีอาจจะสั่งไม่ฟ้องโดยใช้เหตุผลผู้กระทำขาดเจตนา ถ้าเจ้าหน้าที่ได้แจ้งแล้วยังทำต่อแสดงว่ามีเจตนา ฉะนั้นจะมาอ้างที่หลังขาดเจตนาไม่ได้
ข่าวน่าสนใจ:
- "Gmm Show"แจ้งเตือนระวังมิจฉาชีพ หลอกขายบัตรทิพย์ คอนเสิร์ต Rock Mountain เขาค้อ
- เพชรบูรณ์-ผปส.มูลนิธิรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ฯ จี้ผู้จัดคอนเสิร์ต-จนท.เข้มบุหรี่ไฟฟ้า
- เพชรบูรณ์ - นักท่องเที่ยวสุดเซ็ง! วางแผนไปเที่ยวเขาค้อภูทับเบิก หลังรู้ข่าวต้องเจอ"ทริปน้ำไม่อาบ" ยอมยกเลิกหรือปรับไปเที่ยวที่อื่นแทน
- เขาค้อผวา "ทริปน้ำไม่อาบ" นอภ.สั่งตั้งจุดตรวจ เกรงหลังเสร็จกิจกรรมภูทับเบิก แก๊งแว้นเตลิดเขาค้อ
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต่างสภาพโลกร้อน กล่าวว่า เรื่องนี้ทางสมาคมฯไม่อาจนิ่งเฉยต่อไปได้ คงต้องตรวจสอบสำนวนและการกระทำของตำรวจและอัยการ ทำไมเงื่อนไขการใช้ประโยชน์ในที่ดิน รอส. 9 ข้อที่กำหนดไว้โดยชัดเจน ไม่ได้ให้มีการนำที่ดินมาทำเป็นรีสอร์ทโรงแรมใดๆทั้งสิ้น แต่กลับมีการไปร่วมทุนกับรอส.เจ้าของที่ดิน ซึ่งแท้ที่จริงแล้วพื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่ป่าที่ทหารขอใช้จากกรมป่าไม้ แม้จะจัดสรรให้รอส.ทำกินแล้วก็ตาม แต่ก็ยังต้องทำตามเงื่อนไขในท้ายหนังสือการอนุญาตการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน รอส.ดังกล่าว
“ในกรณีนี้กำลังมีพฤติการณ์เลียนแบบของผู้ประกอบการรีสอร์ทบนเขาค้อ ที่กำลังใช้ข้ออ้างว่าหากภาครัฐดำเนินการฟ้องร้องคดี ในที่สุดก็ถูกอัยการสั่งไม่ฟ้องเฉกที่กรณีที่ทางฝ่ายทหารและเจ้าหน้าที่อื่นๆ ได้ร่วมกันเข้าไปตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างของผู้ประกอบการที่กำลังเร่งดำเนินการก่อสร้างรายนี้”นายศรีสุวรรณกล่าว ก่อนหน้านี้ทางคณะเจ้าหน้าที่เรียกผู้ประกอบการรีสอร์ทไปตกลงเพื่อให้รื้อถอนสิ่งปลูกออกไป แต่ผู้ประกอบการยืนยันต้องการให้ทางราชการยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีแม้ว่าจะมีการเสนอทางเลือกอื่นให้ก็ตาม ซึ่งเจ้าของรีสอร์ทเหล่านี้คงเชื่อว่ารูปแบบคดีน่าจะออกมาแบบเดียวกันกับคดีนี้ โดยอัยการไม่สั่งฟ้องและคงให้เหตุผลหลักฐานไม่พอฟ้องเช่นเดียวกัน
นายกสมาคมต่อต้านสภาพวะโลกร้อนกล่าวว่า ทางสมาคมฯเตรียมไปยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดและคณะกรรมการอัยการ(กอ.)ผ่านนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตรวจสอบว่า อัยการเจ้าของสำนวนไม่ยื่นฟ้องผู้ประกอบการที่สร้างตึกมหึมาว่า มีพฤติการณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือระเบียบหรือไม่หรือมีเบื้องหลังหรือเปล่าถึงไม่นำคดีขึ้นฟ้องศาล เพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาตัดสินให้ถึงที่สุดได้ มิฉะนั้นแล้วผู้ประกอบการหลายร้อยรายในพื้นที่เขาค้อ ก็จะใช้เหตุเฉกเช่นเดียวกันกับกรณีนี้เป็นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เบรกสร้างตึกมหึมาบนเขาค้อ พบไม่ขออนุญาตใช้พื้นที่-ก่อสร้าง แถมฝ่าฝืนประกาศอำเภอเขาค้อ / ข้อมูลจาก @77kaoded
คลิปวีดีโอ : คณะเจ้าหน้าที่ฯสั่งเบรกสร้างอาคารบนที่ดิน รอส.เขาค้อ / ข้อมูลจาก @YouTube
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: