เพชรบุรี-หน.อช.แก่งกระจาน เผยภาพสัตว์ป่าหายาก จากกล้องดักถ่าย หวังเป็นประโยชน์ทั้งด้านวิชาการ และการป้องกันลักลอบล่าสุตว์ พร้อมระบุแก่งกระจาน มีความอุดมสมบูรณ์มาก
ในการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ณ ห้องประชุมสำนักงานอช.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งมี น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ประธานชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพชรบุรี เป็นประธานในการประชุม
นายมานะ เพิ่มพูน หน.อช.แก่งกระจาน ได้รายงานถึงผลการดำเนินงาน ทางด้านวิชาการ ซึ่งมีทั้งการศึกษา และวิจัยทั้งพันธ์พืช และชนิด จำนวนของสัตว์ป่าหายาก ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
โดยล่าสุด ได้มีการติดตั้งกล้องดักถ่าย เก็บภาพสัตว์ป่าหายาก เพื่อการศึกษาวิจัย นอกเหนือจากเป็นข้อมูลในด้านวิชาการแล้ว ยังสามารถให้ประโยชน์ในการป้องกัน และลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ป่า ของพรานจากแหล่งต่างๆ ได้อีกด้วย
โดยการบันทึกภาพ จะเป็นการเก็บข้อมูลและหลักฐานในการดำเนินคดีได้เป็นอย่างดี ซึ่งในการประชุม ได้มีการนำภาพสัตว์ป่าหายาก มารายงานให้คณะกรรมการที่ปรึกษา ได้ทราบถึง สภาพสัตว์ป่าที่ตรวจพบ ทั้งเสือดาว เสือดำ เสือโคร่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งล่าสุด มีนักท่องเที่ยวสามารถบันทึกภาพเสือดาวและเสือดำ เดินหากินอยู่ด้วยกัน ซึ่งฝ่ายวิชาการเชื่อว่า เสือดาวกับเสือดำดังกล่าว น่าจะเป็นพี่น้องกัน และเสือดำอาจจะเกิดจากยีนส์ด้อย ที่ทำให้เสือดาวตัวดังกล่าวแตกต่างออกไป
โดยภาพเสือดำและเสือดาวที่เดินคู่กัน ที่แคมป์บ้านกร่าง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้นี้ แสดงให้เห็นว่าป่าแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์มาก
เจ้าหน้าที่นำกล้องที่ติดตั้งไว้ในป่า มาตรวจสอบ เป็นภาพเสือดำโตเต็มวัย เดินวนเวียนผ่านหน้ากล้องเพื่อล่าเหยื่อ และยังพบภาพเสือโคร่งขนาดใหญ่ เดินอยู่ไม่ไกลกัน นอกจากนี้ ยังพบเสือดาวในวัยผสมพันธุ์ ที่ถูกบันทึกภาพไว้ได้อย่างชัดเจน ทั้งในกลางวันและกลางคืน ซึ่งภาพเหล่านี้ยังไม่เคยถูกเปิดเผยที่ไหนมาก่อน
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ในปีนี้มีการลาดตระเวนกันอย่างเข้มงวดเดินเท้าสำรวจ ตรวจ ปราบปรามไปแล้ว คิดเป็นระยะทาง 9 พันกิโลเมตร ทำให้สัตว์ป่าหายากยังคงอยู่ และพบเห็นบ่อยขึ้น
นอกจากนี้ ยังพบสัตว์น้อยใหญ่ อย่าง เก้ง, หมาไน และหมีควายอีกหลายตัว นอกจากจะทราบชนิด และจำนวนของสัตว์ป่าแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อการศึกษาระบบนิเวศน์ด้วยว่า มีความอุดมสมบูรณ์หรือไม่
ล่าสุดเราพบว่า จุดที่ติดตั้งกล้องไว้ห่างกันเพียง 16 ตารางกิโลเมตร สามารถบันทึกภาพเสือดาวได้ถึง 5 ตัว
และในอนาคต เจ้าหน้าที่ได้เตรียมติดตั้งกล้องให้ทั่วทั้งผืนป่าเพื่อใช้ติดตามดูว่าเสือดำ เสือดาว และเสือโคร่ง เดินข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วยหรือไม่ เพื่อนำข้อมูลนี้ไปวิเคราะห์ ร่วมกับสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าประเทศไทย และองค์กรทางด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ เพื่ออนุรักษ์สัตว์ป่าอย่างยั่งยืนต่อไป.
**ขอขอบคุณภาพ เสือดำคู่เสือดาวจากนักท่องเที่ยว และคลิปสัตว์ป่าใน #อช.แก่งกระจาน #กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช #สุรพล นาคนคร
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: