รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเชิงลึก สาวไส้ขบวนการโกงเงินสงเคราะห์คนจนทั่วประเทศ ยันลงโทษคนผิด รู้ผลไม่เกิน 1 เดือน
ปัญหาการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ผู้ยากไร้ และผู้ติดเชื้อเอดส์ ที่ขณะนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตรวจสอบพบมีมูลแล้วถึง 5 จังหวัด คือ ขอนแก่น , เชียงใหม่ , บึงกาฬ , หนองคาย และ สุราษฏร์ธานี
ล่าสุด พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า การตรวจสอบในจังหวัดขอนแก่นและเชียงใหม่ คืบหน้าไปมาก โดย พม.ทำงานควบคู่ไปกับ ป.ป.ท. พบว่ามีการปลอมลายมือชาวบ้านเซ็นรับเงินสงเคราะห์ชัดเจน และกำลังตรวจสอบว่าทำเป็นขบวนการหรือไม่
เบื้องต้นสั่งย้าย ผอ.ศูนย์คนไร้ที่พึ่ง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่จังหวัดขอนแก่นและเชียงใหม่แล้ว คาดว่าไม่เกิน 1 เดือน จะทราบผลการตรวจสอบ และยืนยันว่า จะลงโทษผู้กระทำผิดโดยไม่ละเว้น แต่ยอมรับว่า ในระบบราชการ จะมีขั้นตอนการอุธรณ์และฏีกา ซึ่งต่างจาก ป.ป.ท.ที่สามารถลงโทษได้ทันที
รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ระบุว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ของ พม. ลงพื้นที่ตรวจสอบทั่วประเทศ แต่อยากขอให้ทาง ป.ป.ท.แจ้งข้อมูลการตรวจสอบให้ทราบด้วย เพื่อไม่ให้การทำงานซ้ำซ้อน และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ก่อนหน้านี้ นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ เปิดเผยว่า เตรียมเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง แก้ระเบียบการเบิกจ่ายเงินสงเคราะห์ของทุกกรม ให้รัดกุมยิ่งขึ้น หรืออาจมอบให้ท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ดำเนินการเบิกจ่าย เพื่อป้องกันการทุจริตในระยะยาว รวมทั้งอาจมีแนวทางยกเลิกการจ่ายเงินสงเคราะห์ แต่ให้ความช่วยเหลือในรูปแบบอื่น ที่มีคณะกรรมการจากหลายฝ่ายร่วมพิจารณา
ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ยังกล่าวถึงการตรวจสอบของ ป.ป.ท. ที่ระบุว่า พบหลักฐานเข้าข่ายทุจริตในหลายจังหวัด ว่าไม่อยากให้เหมารวมหรือกล่าวหาลอยๆ เพราะการพบหลักฐานเบื้องต้น ยังฟันธงไม่ได้ว่าทุจริต และต้องตั้งคณะกรรมการสอบก่อน รวมทั้งยืนยันว่า กระบวนการทุจริตไม่น่าจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับส่วนกลาง
ป.ป.ท.ขอนแก่นเร่งสอบทุจริตเงินสงเคราะห์
ส่วนความเคลื่อนไหวของ ป.ป.ท.เขต 4 จังหวัดขอนแก่น พรุ่งนี้ (21ก.พ.) คณะอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการทุจริตและปลอมแปลงเอกสารเบิกจ่ายเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ จะลงพื้นที่ไปสอบปากคำชาวบ้าน ที่มีชื่อในใบสำคัญรับเงิน ซึ่งเป็นเอกสารที่ ป.ป.ท.รับมาตรวจสอบทั้งหมด 2,000 ราย เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงมากที่สุด โดยระดมพนักงานสืบสวนมือดีของ ป.ป.ท. มาสอบปากคำ
จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการเรียกตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 คน มารับทราบข้อกล่าวหา ก่อนจะสรุปสำนวนส่งให้ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ท. ชี้มูลความผิดและสั่งฟ้องจต่ออัยการ ตามขั้นตอนการทำงานของ ป.ป.ท.
