นครพนม – วันที่ 14 พ.ค.62 ภายในห้องประชุมโรงแรมบลูโฮเต็ล เขตเทศบาลเมืองนครพนม หอการค้าจังหวัดนครพนม โดยนายสมนาม เหล่าเกียรติ ประธานหอฯ ดำเนินการจัดการประชุมทางธึรกิจระหว่างคณะกรมอุตสาหกรรมและการค้าจังหวัดกวางบิงห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งตั้งอยู่ภาคกลางตอนเหนือของประเทศ ติดกับทะเลจีนใต้ ห่างจากชายแดนไทยจังหวัดนครพนมประมาณ 295 กม. ถือว่าเป็นเส้นทางทางบกที่ใกล้ที่สุดของประเทศเวียดนามกับประเทศไทย มี Mr.Phan Hoai Nam รองประธานกรมอุตสาหกรรมฯ นำคณะผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ผลิตสินค้าของจังหวัดกวางบิงห์ นำสินค้าตัวอย่างมาแสดงปรกอบการประชุม จำนวน 16 รายการ ขณะที่ทางฝั่งไทยก็นำสินค้าขึ้นชื่อ อาทิ ไก่งวงบ้านคำเกิ้ม ผ้าทอมือ เครื่องเงิน ข้าวออแกนิกส์ น้ำแปรรูปฟักข้าว และน้ำเก็กฮวยผสมถั่งเช่า เป็นต้น
ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม เป็นประธานเปิดการประชุม ร่วมด้วยนายสุรัตน์ ก้องเกียรติกมล ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์หอการค้าฯนครพนม นายวิศรุต จินธนะเสถียร นายกสมาคมชาวไทย-เวียดนามแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ และเปิดเผยรายละเอียดของสินค้าไทย เพื่อให้นักธุรกิจทั้งสองประเทศจับคู่ทางการค้า เป็นการสานต่องานที่หอการค้าฯนครพนม ดำเนินการทางการค้ากับประเทศเวียดนามมาอย่างต่อเนื่อง
นายสมนาม เหล่าเกียรติ ประธานหอฯ เผยว่าเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา มีการประชุม B2G ซึ่งจัดโดยสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง ที่เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ประเทศลาว เพื่อปรึกษาหารือระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจ ในการอำนวยความสะดวกการค้าข้ามแดน ระหว่าง คำม่วน(ลาว)-นครพนม(ไทย)-กวางบิงห์(เวียดนาม) ทำให้มีโอกาสพบปะกับกรมอุตสาหกรรมและการค้าจังหวัดกวางบิงห์ ถึงการจัดงานแฟร์เทรดอุตสาหกรรมฯระหว่างประเทศ ในวันที่ 30 พ.ค.-5 มิ.ย.62 ณ เมืองดงเห่ย(DongHoi) ในวาระจังหวัดกวางบิงห์ครบรอบ 30 ปี ในการก่อตั้งจังหวัดใหม่ และเป็นหนึ่งกิจกรรมภายใต้โครงการส่งเสริมการค้าแห่งชาติของประเทศเวียดนามประจำปี 2019 ด้วย
ในโอกาสนี้ทางหอการค้าฯนครพนมและกรมอุตสาหกรรมฯกวางบิงห์ จึงจัดการประชุมทางธุรกิจระหว่าง 2 องค์กรภาคเอกชน โดยจัดให้มีการแสดงตัวอย่างและแลกเปลี่ยนสินค้า พร้อมทำข้อตกลง(MOU)ทางการค้าเพื่อเชื่อมโยงสินค้า การท่องเที่ยว การศึกษา กับนักธุรกิจ ร้านค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ผู้จัดจำหน่ายสินค้า ในจังหวัดนครพนม “นอกจากนี้กรมอุตสาหกรรมฯกวางบิงห์ได้เชิญนักธุรกิจนครพนม นำสินค้าไปวางแสดงและจำหน่าย ในวาระจังหวัดกวางบิงห์ครบรอบ 30 ปี อีกด้วย ขณะทางไทยก็เชิญกรมอุตสาหกรรมฯของกวางบิงห์ มาร่วมแสดงสินค้าในงานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ระหว่างวันที่ 7-13 ก.ค.62 ด้วยเช่นกัน” นายสมนามฯ กล่าว
โดยคณะกรมอุตสาหกรรมและการค้าฯกวางบิงห์ เดินทางด้วยรถบัสกว่า 30 ชีวิต เมื่อวันที่ 13 พ.ค.62 ซึ่งหอการค้าฯนครพนม ได้พาไปชมอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ บ้านนาจอก ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม และสักการะองค์พญาศรีสัตตนาคราช ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ก่อนจะเข้าพักที่โรงแรมบลูโฮเต็ล
จังหวัดนครพนมและกวางบิงห์ มีการติดต่อทางการค้า การท่องเที่ยว และการศึกษา นานกว่า 10 ปี โดยหอการค้าฯนครพนม ทำหน้าที่เป็นฟันเฟืองขับเคลื่อน ทำให้ชาวเวียดนามกลางเริ่มรู้จักประเทศไทยมากยิ่งขึ้น จึงมีการติดต่อค้าขายกันตลอดเวลา ประกอบกับมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) ยิ่งเพิ่มสายสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม แน่นแฟ้นขึ้น
ล่าสุด ปลายเดือน พ.ค.ปีที่แล้ว หอการค้าฯนครพนม ยกทักนักธุรกิจเดินทางไปจังหวัดกวางบิงห์ เพื่อเปิดกิจกรรม Road Show เป็นโครงการท่องเที่ยวฯตามรอยอารยธรรมลุ่มน้ำโขง (ธรรมะ ธรรมชาติ วัฒนธรรม) โดยนำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวภาคเอกชน อาทิ โรงแรม,บริษัททัวร์,และร้านอาหาร ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก จากจังหวัดกลุ่มสนุก(นครพนม-สกลนคร-มุกดาหาร) ร่วมเจรจากับนักธุรกิจจังหวัดกวางบิงห์ พร้อมจับมือร่วมกันด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และเกิดความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคของกลุ่มประเทศอาเชี่ยน และเป็นการส่งเสริมการตลาดในต่างประเทศ
จังหวัดกวางบิงห์ ประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบน และเป็นจังหวัดที่มีแผ่นดินแคบที่สุดของประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นจังหวัดที่เดินทางจากชายแดนจังหวัดนครพนมไปเส้นทางบกที่ใกล้ที่สุด คือมีระยะทางประมาณ 295 กม. โดยทิศตะวันตกติดกับชายแดนประเทศลาว ทิศตะวันออกเป็นทะเล มีเมืองหลวงชื่อด่งเหย เป็นที่ตั้งป้อมปราการ สมัยศตวรรษที่ 1 และมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่นหาดทรายสีขาวดั่งหิมะ นอกชายหาดของจังหวัดกวางบิงห์ ยังได้ชื่อว่าเป็นหาดทรายที่ทอดยาวที่สุดในเวียดนาม คือมีความยาวถึง 125 กม.
นอกจากนี้กวางบิงห์ยังได้ชื่อว่าเป็น”อาณาจักรแห่งถ้ำ” โดยมีอุทยานแห่งชาติฟ็องญา-แก๋บ่าง ที่เต็มไปด้วยป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ และถ้ำหินปูนน้อยใหญ่ อาทิ ถ้ำสวรรค์ เป็นถ้ำแห้งยาวที่สุดในเอเซีย โดยมีความยาวมากกว่า 31 กม. รวมถึงถ้ำเซินด่องที่ได้ชื่อว่าเป็นถ้ำใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งในอนาคตอันใกล้นักธุรกิจทั้งสองประเทศ จะเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวระหว่างกัน ทำให้เกิดรายได้หมุนเวียนในกลุ่มประเทศอาเชี่ยน รวมทั้งสร้างงานสร้างรายได้แก่ประชากรของประเทศด้วย
