พ่อค้าขายเสื้อผ้าตามตลาดนัดวัย 53 ปี ไปส่งลูก ขากลับเกิดหัวใจวายเฉียบพันดับคารถทั้ง ๆ ที่มือยังกำขวดยาดมอยู่ ภรรยาเอะใจทำไมยังไม่กลับ หลังจากขายของเสร็จ กลับบ้านพบว่าสามียังไม่กลับ จึงชวนน้องชายออกตามหา มาพบจอดรถเสียชีวิตอยู่ข้างถนน บนถนนช่องทางด่วนบางนาตลาด กม.10
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 15 พฤษภาคม 2562 พ.ต.ท.สำราญ ช่วยท้าว สารวัตรเวร สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีชายเสียชีวิตอยู่ภายในรถที่จอดอยู่ในช่องทางด่วนถนนบางนา-ตราดขาออกหลักกิโลเมตรที่ 10 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ ดีแม็ก สีบอร์นเทา ด้านท้ายกระบะตีตู้ทึบ ทะเบียน ณร-6708 กรุงเทพมหานคร จอดเปิดไฟฉุกเฉินอยู่ชิดขอบทางด้านซ้าย ที่บริเวณเบาะนั่งข้างคนขับพบร่างของนายจงรักษ์ เกสรสิทธิ์ อายุ 53 ปี นั่งเสียชีวิตอยู่ที่เบาะข้างคนขับในลักษณ์ตัวเอียงไปทางซ้ายทั้ง ๆ ที่ตัวยังคาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ ที่มือข้างขวายังถือขวดยาดมคมอยู่ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง จึงได้ประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลบางพลีร่วมตรวจสอบสภาพศพ ตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องลอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด คาดว่าน่าจะเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน จึงได้มอบศพให้มูลนิธินำส่งชันสูจนที่โรงพยาบาลรามาธิบดีสมุทรปราการ
จากการสอบถามนางสุมล เกสรสิทธิ์ อายุ 52 ปี ภรรยาผู้ตายได้เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 7 โมงเช้าผู้ตายได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวออกมาส่งลูกที่สถานีรถไฟฟ้า บีทีเอส ในย่านบางนา โดยได้ล๊อกประตูทิ้งตนไว้ในบ้าน จนกระทั่งเวลา 9 โมงเช้าตนก็ยังไม่เห็นสามีกลับมารับตนที่บ้านจึงได้โทรศัพท์หาสามีแต่ไม่มีใครรับสาย ตนพยายามโทรหาหลายครั้งแต่ก็ไม่รับสายจึงได้โทรไปถามลูกว่าพ่อบอกไว้หรือเปล่าจะกลับทางไหน เพราะบ้านตนกลับได้สองเส้นทางทั้งถนนเทพารักษ์และถนนบางนาตราด ลูกได้บอกว่าพ่อจะไปตั้งร้านขายเสื้อผ้าที่วัดบางพลีใหญ่กลางก่อน ตนก็แปลกใจว่าทำไมไม่รับสายแต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะเกิดเหตุร้าย ตนจึงได้ปีนออกจากบ้านและนั่งรถสองแถวไปรับรถที่ตนเอาไปซ่อมไว้ที่อู่ซ่อมรถตั้งแต่เมื่อวันก่อน และขับกลับมาก่อนมาเอาเอาของที่บ้านไปตั้งร้านขายที่วัดบางพลีใหญ่กลางแต่ก็ไม่พบสามี จึงคิดว่าสามีน่าจะไปหาเพื่อน ๆ เพราะปกติอังคาร ตลาดเงียบสามีจะไม่ค่อยมาขายจึงไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งมืดตนเก็บร้านขับรถกลับไปที่บ้าน แต่ก็ไม่พบสามี จึงคิดว่าน่าจะเกิดเหตุร้ายจึงได้โทรศัพท์ชวนน้องชายออกมาเป็นเพื่อขับรถตระเวนหา จนกระทั่งมาพบรถสามีจอดเปิดไฟฉุกเฉินอยู่ในช่องทางด่วนถนนบางนาตราด กม.10 จึงได้จอดรถลงมาดูได้พบว่าสามี นั่งเสียชีวิตอยู่ที่เบาะข้างคนขับทั้ง ๆ ที่มือยังกำขวดยาดมอยู่ที่มือ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ปกติแล้วผู้ตายไม่เคยไปตรวจร่างกายเลยจึงไม่ทราบว่าผู้ตายมาโรคประจำตัวหรือไม่ แต่เคยมีอาการวูบมาแล้วครั้งหนึ่งแต่หลายปีแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า ขณะที่ผู้ตายขับรถมาน่าจะเกิดอาการวูบจึงได้ประคองรถเข้าจอดชิดขอบทาง ก่อนเปิดไฟฉุกเฉินและเอาและหยิบขวดยาดมมาดมเพื่อบรรเทาอาการ แต่คาดว่าอาการน่าจะรุนแรงจึงเป็นเหตุให้ผู้ตายเสียชีวิต อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
