อุบลราชธานี – พนักงานสาวร้านโทรศัพท์ถูกโจรเข้ามาขโมยรถกระบะทั้งที่จอดในบ้าน โชคดีแอบนำมือถือเก่าเปิดจีพีเอสซ่อนไว้ในรถสามีหวังออกตามตัวเวลาหนีเที่ยว จนทำให้เจอรถที่คนร้ายโจรกรรมไปจอดในบ้านร้าง พร้อมผู้ต้องสงสัยเป็นเซลส์ที่ขายรถให้เมื่อปีก่อน
เมื่อเวลา 21.20 น. (14 พ.ค.) ร.ต.อ.พงษ์ฤทธิ์ รักไทย รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งจากศูนย์ 191 มีเหตุลักทรัพย์รถยนต์กระบะ จากบ้านเลขที่ 79 ม.5 ต.กระโสบ อ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัดจับและประสานงานไปพื้นที่ใกล้เคียงที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ นางสาวปิยะนุช พาแก้ว อายุ 29 ปี เจ้าของรถยืนคอยเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งให้การว่าช่วงเวลาที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นใคร เข้ามาขับรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ ดีแม็ค สีบอร์น หมายเลขทะเบียน บห 125 อุบลราชธานี ออกไปจากบ้านโดยที่กุญแจรถยังอยู่ภายในบ้าน
ต่อมานางสาวปิยะนุช แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสามารถตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีผ่าน ระบบติดตาม จีพีเอส จากโทรศัพท์มือถือที่ซ่อนไว้ในรถได้ โดยล่าสุดรถจอดไว้ในบ้านร้างในหมู่บ้านมัณฑนา ซอย 28 ม.6 ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี โดยถอดแผ่นป้ายทะเบียนทั้งด้านหน้าและด้านหลังออกเพื่อปิดบังอำพราง ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงพบรถยนต์ของนางสาวปิยะนุช เข้ามาจอดภายในบ้านร้างเวลาประมาณ 21.31 น.หลังจากนั่นได้มีชายเดินจากรถเข้าไปในบ้านฝั่งตรงข้ามที่คนร้ายเอารถมาจอด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าวพบ นายพงษ์ (นามสมมุติ) ชาวบ้านกระโสบ ต.กระโสบ อ.เมืองอุบลราชธานี และนางสาวกบ (นามสมมุติ) แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน โดยนายพงษ์ให้การปฏิเสธอ้างว่ามีส่วนรู้เห็นกับรถที่ถูกโจรกรรม
ต่อมานายวุฒิไกร สังขรมย์ อายุ 30 ปี สามีของนางสาวปิยะนุช เข้ามาสังเกตการณ์ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดคุยกับนายพงษ์ จำได้ว่านายพงษ์เป็นเซลล์ที่ขายรถคันดังกล่าวให้ตนเมื่อปี 61 ครั้งนั้นนายพงษ์เป็นผู้ที่นำรถมาส่งให้ที่บ้านและให้กุญแจรถให้เพียงดอกเดียวเท่านั้นส่วนดอกสำรองไม่มีมาให้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวนายพงษ์และนางสาวกบมาสอบถามที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี เนื่องจากมีความบังเอิญที่ รถของผู้เสียหายถูกนำมาซ่อนฝั่งตรงข้ามบ้านที่นายพงษ์อยู่ อีกทั้งเป็นผู้ขายรถคันดังกล่าวให้ผู้เสียหาย เป็นคนบ้านเดียวกันกับที่เกิดเหตุ ขั้นต้นทั้งสองคนยังคงให้แย้งกันเองปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับการโจรกรรมครั้งนี้
นางสาวปิยะนุชเปิดเผยถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า ตนและสามีกำลังทำธุระอยู่ในบ้านก็ได้ยินเสียงขับรถออกไปโดยไม่ทราบว่าใครเป็นคนขับไปเพราะกุญแจรถก็ยังอยู่ในบ้าน เมื่อมั่นใจว่ารถถูกโจรกรรม สามีจึงได้ออกตามหารถ ส่วนตัวเองยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกิดเหตุ นางสาวปิยะนุช ยังเล่าอีกว่าโชคดีที่ตั้งสตินึกขึ้นได้ว่าแอบเอามือถือเก่ามาเปิดระบบจีพีเอสแล้ว นำไปซ่อนไว้ในรถกระบะของสามี เพื่อติดตามดูพฤติกรรมไม่ให้หนีไปเที่ยวดื่มสุรากับเพื่อน เมื่อเป็นระบบดูก็พบว่ารถได้วิ่งไปจอดอยู่แถวบ้านดอนแคซอย 28 ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ
จนพบรถยนต์ที่คนร้ายโจรกรรมไปถูกถอดป้ายทะเบียนด้านหน้าและด้านหลังออก จากนั้นพลเมืองดีที่ทราบข่าวได้ช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนพบว่า คนร้ายนำรถไปจอดไว้ในบ้านร้างแล้วก็วิ่งหลบหนีไปทางบ้านของนายพงษ์และนางสาวกบ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ใด เพียงแต่นัดให้นายพงษ์และนางสาวกบ เข้ามาให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งในช่วงบ่าย
ข่าวโดย : เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: