เพชรบูรณ์-คณะจนท.ดีเดย์จับ 31 รีสอร์ท-บ้านพักตากอากาศ นอกแปลงรอส.และอยู่ในเขตป่าเขาค้อ
วันที่ 16 พฤษภาคม คณะเจ้าหน้าที่คณะทำงานชุดปฎิบัติการแก้ไขปัญหาพื้นที่ที่กองทัพภาคที่ 3 ขอใช้จากกรมป่าไม้ประกอบด้วย ป่าไม้, ทหาร ม.พัน 28, กอ.รมน.เพชรบูรณ์, ตชด.31 และทหาร ศอป.โครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็กเขาค้อ จำนวนกว่า 100 นาย เริ่มดีเดย์เปิดปฏิบัติการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายจับกุม 31 รีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศนอกแปลงรอส.และอยู่ในเขตป่าเขาค้อในพื้นท่ 4 ตำบลของ.อ.เขาค้อ ได้แก่ ต.เขาค้อ ต.สะเพาะดง ต.ริมสีม่วงและต.หนองแม่นา
โดยการเข้าตรวจสอบจับกุมของคณะเจ้าหน้าที่ในวันนี้ มีการแบ่งกำลังออกเป็น 9 ชุดปฏิบัติการ และแบ่งเป้าหมายซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านพักตากอากาศจำนวน 24 รายเป็นเป้าหมายจับกุมในล็อตแรก ส่วนเป้าหมายที่เหลือจะดำเนินการในวันต่อไป โดยกำหนดเวลาปฏิบัติการในครั้งนี้เริ่มตั้งแต่วันที 16-23 พฤษภาคมนี้ และแนวทางเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันรีสอร์ทกลุ่มที่ 1 จำนวน 135 รายที่ทางเจ้าหน้าที่มีการจับกุมดำเนินคดีไปเรียบร้อยแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
ทั้งนี้สำหรับรีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศจำนวน 31 ราย ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม 2 จำนวน 358 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่สำรวจเพิ่มเติมและพบอยู่นอกแปลงและอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนเขาปางก่อและเขาวังชมภู อ.เขาค้อ โดยภายหลังมีการคัดกรองพบมีรีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศ จำนวน 31 รายในกลุ่มนี้ ซึ่งผู้ประกอบการหรือเจ้าของเป็นคนนอกพื้นที่จึงมีการจับกุมดำเนินคดี ในส่วนที่เหลืออีก 327 รายจากการคัดกรองของคณะทำงานฯพบว่าเป็นที่พักอาศัยของประชาชนทั่วไปและรอส. จึงอยู่ระหว่างนำเสนอฝ่ายนโยบายพิจารณากำหนดทิศทางว่าดำเนินการต่อไปอย่างไร
ข่าวแจ้งว่า สืบเนื่องจากกองทัพภาคที่ 3 โดยกองพลทหารม้าที่ 1, กรมป่าไม้และจ้งหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมกันแก้ไขปัญหาพื้นที่ป่าในเขตอ.เขาค้อที่กองทัพภาคที่ 3 ขอใช้จากกรมป่าไม้เนื้อที่ 1.2 แสนไร่เศษ หลังถูกนายทุนบุกรุกครอบครองสร้างรีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อเตรียมส่งมอบคืนพื้นที่ให้กรมป่าไม้ จึงมีการสำรวจเอ็กซเรย์พื้นที่ถูกบุกรุกใน 4 ตำบลของ อ.เขาค้อ พบ 1)กลุ่มรีสอร์ทนอกแลงรอส.และบุกรุกป่าจำนวน 135 ราย 2)กลุ่มสำรวจเพิ่มเติมพบรีสอร์ท-บ้านพักตากอากาศอยู่นอกแปลงรอส.และอยู่ในเขตป่าอีกจำนวน 358 ราย 3)กลุ่มรีสอร์ท-บ้านพักตากอากาศอยู่ในแปลงรอส.จำนวน 332 ราย และ 4)กลุ่มรอส.ทำผิดเงื่อนไขการใช้ที่ดินรอส.จำนวน 1052 ราย
หลังจากนั้นจึงทำให้มีการผุดแผนปฎิบัติการบังคับใช้กฎหมายเกิดขึ้น โดยมีการเชิญผู้ประกอบการและเจ้าของรีสอร์ท-บ้านพักตากอากาศเจรจา เพื่อขอคืนพื้นที่และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแลกเปลี่ยรกับการไม่ถูกดำเนินคดี แต่หากผู้ประกอบการไม่ยินยอมและเลือกเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมเพื่อต่อสู้คดี ทางคณะเจ้าหน้าที่ก็จะทำการจับกุมดำเนินคดี อย่างไรก็ตามแผนปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายล่าสุด ยังอยู่ในขั้นตอนกลุ่มที่ 2 รีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศจำนวน 358 รายนอกแปลงรอส.และอยู่ในเขตป่า
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: