เพชรบูรณ์-ผู้ว่าฯจี้ คณะทำงานส่งมอบคืนพื้นที่เขาค้อ ชุดอธิบดีกรมป่าไม้และกอ.รมน.ภาค 3 แต่งตั้งเร่งประชุม กังวลหากไม่คืบหน้า คทช.ไปต่อไม่ได้ ด้านผอ.ศูนย์ป่าไม้ฯแจงอยู่ระหว่างสำรวจที่ดิน 1.2 แสนไร่ทหารขอใช้เหลืออยู่เท่าไหร่
วันที่ 17 พฤษภาคม นายสืบศักดิ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบรณ์ กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมวาระยามเช้า(Morning Brief)เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา เกี่ยวกับการตรวจสอบรีสอร์และบ้านพักตากอากาศบุกรุกพื้นที่ป่าอ.เขาค้อ ภายหลังได้รับรายงานจากตัวแทนกองพันทหารม้าที่ 28 โดย ร.ท.เอกชัย ดอนกาวิน หน.ชป.โครงการแก้ไขและพัฒนาลุ่มน้ำเข็กเขาค้อ ถึงผลการตรวจสอบรีสร์ทและบ้านพักตากอากาศบุกรุกป่าเขาค้อ โดยมีการแก้ไขดำเนินคดีกับผู้ไม่ได้รับอนุญาตสร้างรีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศนอกแปลงรอส.ในกลุ่มที่ 1 จำนวน 135 ราย ซึ่งสรุปแจ้งความดำเนินคดีไปทั้งสิ้น 120 แห่ง
และล่าสุดอยู่ระหว่างดำเนินจับกุมคดีในห้วง 2 กับกลุ่มรีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศ 358 ราย แยกเป็น 3 กลุ่มย่อยได้แก่ นายทุน 30 ราย ประชาชนทั่วไป 292 รายและรอส. 36 ราย ที่ผ่านมามีการเชิญผู้ครอบครองพื้นที่มารับทราบแนวทางแล้ว โดยบางส่วนพร้อมเข้าสู่ขบวนการยุติธรรม จึงสรุปตั้งแต่วันที่ 16 -31พฤษภาคม 2562 จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับ 29 รายและเหลืออีก 269 รายอยู่ในขั้นตอนเข้าสู่คณะกรรมการในการพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนที่ 3 ต่อไป
ทั้งนี้นายสืบศักดิ์กล่าวว่า สาเหตุที่นำประเด็นนี้มาเข้าที่ประชุมเพราะว่า ตอนนี้มีความคืบหน้าทั้ง กอ.รมน.ภาค 3 และทางอธิบดีกรมป่าไม้ตั้งคณะกรรมการในการรับพื้นที่คืน แต่ยังไม่มีความคืบหน้าจึงอยากเร่งรัดให้มีการประชุม เพราะหากไม่คืบหน้าก็นำไปเข้าคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)ไม่ได้ ก็จะทำให้ช้าไปอีกและไม่มีแนวทางที่จะไปต่อได้
อย่างไรก็ตามนายชิต อินทรนก ผอ.ศูนย์ป่าไม้เพชรบูรณ์ กล่าวชี้แจงว่า คณะทำงานชุดนี้รมว.ทส.แต่งตั้งขึ้น โดยมีอธิบดีกรมป่าไม้เป็นประธานฯและมีผอ.กองการอนุญาตเป็นเลขาฯ โดยเมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมามีการประชุมนอกรอบไปครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งอธิบดีกรมป่าไม้ให้แนวทางว่าให้ในพื้นที่โดยฝ่ายทหารและป่าไม้ สำรวจพื้นที่ 1.2 แสนไร่เศษที่ทหารขอใช้ว่า มีขอบเขตการใช้ที่ดินไปเท่าไหร่และเหลือพื้นที่ที่จะส่งมอบคืนเท่าไหร่ ซึ่งเริ่มสำรวจมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมาแล้วและกำหนดส่งข้อมูลให้กรมป่าไม้ภายในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ เพื่อให้อธิบดีกรมป่าไม้นัดประชุมใหม่อีกครั้งคาดว่าต้นๆเดือนมิถุนายนจะจัดประชุมขึ้น โดยอธิบดีกรมป่าไม้แจ้งว่าอาจจะมีการรับคืนพื้นที่เลย ตอนนี้ทางพื้นที่จึงเร่งจัดทำว่าเหลือพื้นที่จริงๆ เท่าไหร่เป็นอุทยานและเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเท่าไหร่
อย่างไรก็ตามนายสืบศักดิ์กล่าวเสริมโดยได้ขอให้ทางศูนย์ป่าไม้เพชรบูรณ์ ก่อนส่งข้อมูลให้ทางกรมป่าไม้ ขอให้มีการจัดประชุมพูดคุยกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและให้นำแผนที่มานั่งกางพิจารณาดูกันก่อน เพราะหากเสนอไปไม่ถูกต้องหรือมีพื้นที่ตกหล่นจะทำเป็นปัญหาระหว่างป่าไม้กับทางอำเภอซึ่งจะต้องบูรณาการต่อ ขณะเดียวกันเมื่อมีการรับมอบคืนพื้นที่แล้วทางจังหวัดจะร่วมบูรณาการอย่างไรได้บ้างจะได้เตรียมวางแผนได้ถูกต้อง โดยนายชิตไม่ขัดข้องพร้อมเสนอให้นำเข้าในการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขการบุกรุกทำลายป่าไม้ (คปป.) โดยตัวแทนฝ่าย ทสจ.เพชรบูรณ์เสนอประชุมในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้
นอกจากนี้นายสืบศักดิ์ยังสอบถามถึงกรณีการจับกุม 6 รีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศ เนื่องจากมีเสียงทักท้วงว่า ช่วงเริ่มสร้างทำไมเจ้าหน้าที่ไม่ไปทักท้วงหรือจับกุม แต่พอก่อสร้างเสร็จจึงเข้าำปทำการจับกุม โดย ร.ท.เอกชัยกล่าวชี้แจงว่าสืบเนื่องจากมีการร้องเรียนไปยัง ศปป.4 กอ.รมน.ว่าทำไมไม่จับกุมรีสอร์ทเหล่านี้ ทางชุดปฏิบัติการพิเศษ ศปป.4 จึงดำเนินการร่วมกับชุดพยัคฆ์ไพรโดยพบว่า เป็นรีสอร์ทที่ก่อสร้างใหม่ฝ่าฝืนคำสั่งของกองกำลังรักษาความสงบจ.เพขรบูรณ์เมื่อปี 2557 ถือเป็นผู้บุกรุกรายใหม่ โดยพื้นที่ก่อสร้างบางรายอยู่ในแปลงรอส.และคาบเกี่ยวเขตป่า ในขณะที่บางรายอยู้ในเขตป่า พื้นที่ก่อสร้างค่อนข้างลับตาตอนเข้าสำรวจทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบสิ่งปลูกสร้าง จึงประเมินว่าทางผู้ประกอบการคงเร่งก่อสร้างเมื่อราวปลายปี 2561 ที่ผ่านมา
“ช่วงที่เริ่มจะมีการปรับพื้นที่ทางเจ้าหน้าที่เคยเข้าไปเตือนผู้ประกอบการบางรายให้หยุดดำเนินการ แต่เผลอแผล็บเดียวมีสิ่งปลูกสร้างผุดขึ้นเป็นจำนวนมากแล้ว ในขณะที่ทราบว่ามีรีสอร์ทบางรายจ้างผู้รับเหมาในจ.ชลบุรี ให้มาทำสวนในราคา 1 ล้านบาท โดยใช้เวลาเพียงแค่วันเดียวสร้างจนเสร็จสิ้น”ร.ท.เอกชัยกล่าว
ทั้งนี้นายสืบศักดิ์ได้กล่าวเสริมว่ามีผู้มาร้องให้หยุดจับก่อนได้ไหม แต่เมื่อทำผิดกฎหมายจะไปหยุดกันอย่างไร ผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูกมาร้องผู้ว่าฯก็ทำอะไรไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย ซึ่งทางอำเภอก็เคยร้องขอความร่วมมือไม่ให้มีการก่อสร้างเพิ่ม ตอนนี้จึงฝากทางทหาร,ป่าไม้และอำเภอ หากเห็นมีการเริ่มก่อสร้างให้เข้าไปห้ามปรามไม่ควรปล่อยให้ก่อสร้างเสร็จแล้วและไปจับกุม ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่า ปัจจุบันการก่อสร้างค่อนข้างเร็วเพราะผู้ประกอบการใช้โครงการเป็นแบบน็อคดาวน์ แค่เพียงไม่กี่วันก็สร้างเสร็จแล้ว
