อุบลราชธานี – เซ่น ฟันหัว ในโรงพยาบาล กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 โดย พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3 มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.อุดร มณีสาย ผกก.สภ.เหล่าเสือโก้ก ไปประจำการที่ สปก.ภาค 3 เป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.นี้เป็นต้นไป
โดยไม่ระบุสาเหตุการถูกย้ายมาจากเรื่องใด แต่อาจจะเกี่ยวเนื่องจากกรณีนายธนกฤติ มุ้งพร อายุ 41 ปี ชาวบ้านโพนเมือง ต.โพนเมือง อ.เหล่าเสือโก้ก ใช้มีดอีโต้บุกฟันรุ่นน้องขณะนอนรอทำแผลในห้องฉุกเฉินเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา แล้วไม่รีบรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบในทันทีก็เป็นได้ และจากการสอบถามจากแหล่งข่าวถึงเหตุการณ์ในวันดังกล่าวทราบว่า เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้แจ้งมายังสถานีตำรวจเหล่าเสือโก้ก มีคนถูกทำร้ายศรีษะแตกมาขอทำบาลแผล และมีการติดตามมาทำร้ายกันด้วยเมื่อเวลา 15.06 น. หลังจากนั้นเวลา 15.08 น.เจ้าหน้าที่สืบสวนได้ไปถึงที่เกิดเหตุและทำการควบคุมตัวนายธนกฤติ ไว้ได้ทันทีบริเวณหน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล พร้อมนำตัวไปทำการสอบสวนที่สถานี และทำรายงานเบื้องต้นให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ล่าสุด พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ศิริพัฒน์ธนภาค ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ได้มีการประชุมวีดีโฮทางไกลกับ ทุก สถานีในพื้นที่ให้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ฝ่ายปกครองในพื้นที่ กรณีมีงานบุญต่างและจัดชุดบูรการร่วมในการเข้าดูแล สถานพยาบาล โรงพยาบาลในพื้นที่ และจะมีการหารือกับทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ในการป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวต่อไป
นายสุวิทย์ โรจนศักดิ์โสธร นพ.สสจ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า จากกรณีนายธนกฤติ หรือต้อม มุ้งพร อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่80 หมู่ 15 ต.โพนเมือง อ.เหล่าเสือโก้ก จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาบุกเดี่ยวฟันคู่อริในโรงพยาบาลเหล่าเสือโก้ก เมื่อวันที่ 19 พค.ที่ผ่านมานั้น หลังเกิดเหตุทางสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ได้มีการวางมาตรการเพื่อป้องกันเหตุด้วยการจำกัดสิทธิในการเข้าไปในห้องฉุกเฉินของประชาชนที่เป็นญาติผู้ป่วย ให้เจ้าหน้าที่แต่ละโรงพยาบาลได้มีการกลั่นกรองและการอนุญาตสิทธิ อาจมีการแสกนนิ้ว หรือให้เจ้าหน้าที่นำเข้าไป ซึ่งห้องฉุกเฉินหลายๆ แห่งปัจจุบันมีการเข้าออกห้องฉุกเฉินได้ง่าย พร้อมให้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้ใช้การได้ตลอดเวลา
ขณะที่การรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนซื้อเครื่องมือแพทย์นั้นทางโรงพยาบาลเหล่าเสือโก้ก มีการเปิดบัญชีคิวอาร์โค้ดรับเงินบริจาคโดยตรง และสามารถนำใบเสร็จไปดำเนินการลดหย่อนภาษีได้ นอกจากนี้ทุกโรงพยาบาลมีบัญชีเปิดรับบริจาคเองอยู่แล้ว จึงไม่อยากให้ประชาชนไปหลงเชื่อร่วมบริจาคกับบุคคลที่ไม่รู้จักหรือไม่น่าเชื่อถือ เพราะอาจเป็นมิจฉาชีพได้ ขณะเดียวกันทางสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ได้มีการจัดเครื่องตรวจวัดคลื่นหัวใจ จากโรงพยาบาลใกล้เคียงมาให้โรงพยาบาลเหล่าเสือโก้กได้ใช้ชั่วคราวแล้ว ระหว่างรอเครื่องใหม่แล้ว
ข่าวโดย : เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์
